ความฝันของมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ ต้องมีสักแว๊บหนึ่งที่เรานึกถึง การลาออกจากงานประจำไปเป็นเริ่มธุรกิจที่ใฝ่ฝันแล้วได้เป็นนายตัวเอง อิสระทางการทำงานที่เรากำหนดได้ แต่การจะเริ่มทำธุรกิจในยุคสมัยนี้ ที่ไม่ว่าใครก็อยากมีธุรกิจหรือแบรนด์เป็นของตัวเองจึงไม่ใช่เรื่องง่าย คุณควรตั้งสติ คิดให้รอบคอบ และมองให้รอบด้านก่อนที่ตัดสินใจยื่นใบลาออก ควิกวอชเลยจะพาคุณมาสำรวจความพร้อม และข้อควรรู้ก่อนเริ่มธุรกิจว่าต้องรู้อะไรบ้าง มาศึกษาไปพร้อมกันเลย
1.สำรวจความพร้อมด้านการเงิน
เมื่อคุณตัดสินใจลาออกจากงานประจำเพื่อเริ่มทำธุรกิจ สิ่งที่คุณต้องเตรียมใจคือ คุณจะขาดรายได้หลัก ที่จะได้รับเป็นเงินก้อนทุกเดือน หรือเงินเดือนนั่นเอง คุณต้องเช็กก่อนเลยว่า คุณมีเงินเก็บส่วนตัวเท่าไหร่? รายจ่ายที่คุณต้องเสียในแต่ละเดือนเท่าไหร่บ้าง? อย่างเช่น ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนบ้านหรือคอนโด รวมถึงหนี้สินจากบัตรเครดิตต่าง ๆ คุณควรเตรียมความพร้อมด้านการเงินโดยการเคลียร์หนี้สินให้ได้มากที่สุดก่อนตัดสินใจลาออก เพื่อลดค่าใช้จ่ายขณะสร้างธุรกิจ คำนวณค่าใช่จ่ายทั้งหมดว่าคุณควรหาเงินต่อเดือนเท่าไหร่ เพื่อให้ธุรกิจที่คุณจะเริ่มทำ สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างไม่สะดุด
เมื่อสามารถวางใจเรื่องหนี้สินได้แล้ว สิ่งที่คุณต้องเตรียมให้พร้อมต่อมาคือ เงินลงทุน แน่นอนว่าไม่ว่าจะเริ่มธุรกิจไหน ก็ต้องใช้เงินสักก้อนแน่นอน คุณควรสำรวจเงินทุนส่วนตัวว่ามีมากน้อยแค่ไหน? เหมาะสมกับธุรกิจที่อยากทำหรือไม่? และเงินนั้นมากพอในการขยายธุรกิจระยะยาวไหม? ต้องใช้เงินทุนอีกเท่าไหร่? ศึกษาหรือมองหาแหล่งเงินทุนอื่นไว้บ้างหรือยัง? และที่สำคัญที่สุดคือ การลงทุนมีความเสี่ยง คุณควรมีเงินเก็บฉุกเฉินไว้สำหรับเหตุการณ์ไม่คาดคิดต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นหลังจากเริ่มสร้างธุรกิจไปแล้ว เพราะมีปัจจัยมากมายที่อาจเป็นอุปสรรคต่อธุรกิจของเราได้ คุณจึงควรสำรองเงินส่วนนี้ไว้ และควรมองหาแหล่งเงินทุนที่เราสามารถหยิบยืม หรือกู้มาเพื่อประคองธุรกิจของเราได้ ในกรณีที่เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น
2.สำรวจความชอบของตัวเอง
เงินพร้อม ใจต้องพร้อมด้วย หากคิดจะทำธุรกิจให้ยั่งยืน ส่วนที่สำคัญอันดับต้น ๆ นั่นก็คือ แพสชั่น (Passion) หรือความหลงไหลในบางสิ่งบางอย่าง ถ้าเราได้ทำธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับสิ่งที่เรารัก สิ่งที่เราชอบ อาจทำให้ธุรกิจของเราไปได้ไกลและอยู่ยาวมากยิ่งขึ้น โดยไม่รู้สึกทดท้อ หมดแรงไปเสียก่อน ซึ่งสิ่งที่ชอบนั้นควรทำเงินให้คุณได้ด้วย
แต่ถ้าความชอบของคุณมีมากมายจนไม่รู้จะเลือกทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร ก็สามารถหยิบจับความถนัด หรือสามารถพิเศษที่คุณมีมาต่อยอดเป็นธุรกิจใหม่ เช่น คุณเป็นคนชอบทำอาหาร ก็เริ่มจากการทำธุรกิจร้านอาหารจัดส่งพื้นที่ใกล้บ้าน ส่งเดริเวอรี่ในแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ หรือถ้าหากคุณชอบดูแลรถยนต์ ก็เริ่มจากการทำธุรกิจคาร์แคร์ แต่งรถ หรือธุรกิจร้านล้างรถเล็ก ๆ หากธุรกิจเริ่มเข้าที่ และมีแนวโน้มที่จะขยายธุรกิจต่อไปได้ ถึงตอนนั้น คุณค่อยเริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจนั้น ๆ และพัฒนาทักษะในการเป็นเจ้าของธุรกิจเพื่อสร้างความเติบโตต่อไป
แต่ถ้าสุดท้ายแล้วคุณตัดสินใจไม่ได้ว่าจะลงทุนทำธุรกิจอะไร และความถนัดของตัวเองก็หลากหลาก การหยิบยกธุรกิจของครอบครัวที่เคยทำมาแล้วแต่เลิกทำไป หรือธุรกิจกงสีของครอบครัว มาปรับและต่อยอดด้วยวิธีใหม่ ๆ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย เพราะคุณจะได้ผู้มีประสบการณ์คอยให้คำแนะนำตลอดเส้นทางการสร้างธุรกิจของคุณ ให้สามารถวางแผนธุรกิจได้รอบคอบมากขึ้น และไม่ผิดพลาดซ้ำรอยเดิม
3.ทำความรู้จักธุรกิจแต่ละประเภท
ก่อนที่เราจะเริ่มลงทุน ไม่ว่ากับธุรกิจไหนก็ตาม เราควรศึกษาความแตกต่าง จุดคุ้มทุน และข้อดีข้อเสียของธุรกิจแต่ละประเภทนั้นก่อน เปรียบเทียบว่าธุรกิจไหนบ้างที่เป็นธุรกิจน่าลงทุน มองเห็นอนาคตที่ยั่งยืนจากธุรกิจนั้นหรือไม่ อย่างเช่น ทำธุรกิจอะไรดี? กลุ่มเป้าหมายของคุณเป็นใคร? มีหน้าร้านหรือทำเป็นออนไลน์ดีกว่ากัน? ถ้าอยากเริ่มธุรกิจสตาร์ทอัพ (Start-Up) ต้องทำอย่างไรบ้าง? สร้างความเติบโตอย่างรวดเร็วได้อย่างไรบ้าง? มีความแตกต่างจากการลงทุนกับ ธุรกิจSME (Small and Medium Enterprises) อย่างไร? ธุรกิจSMEยอดฮิตมีอะไรบ้าง? ถ้าการเริ่มนับหนึ่งในการสร้างธุรกิจมันยาก ใครที่สามารถช่วยเราได้บ้าง? ธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise) คืออะไร? แบรนด์ที่เราสนใจจะลงทุนด้วยเป็นอย่างไร? ซื้อแฟรนไชส์จะสำเร็จเร็วกว่าการสร้างธุรกิจเองจริงไหม? ถ้าซื้อแฟรนไชส์มาทำจะไปรอดไหม จุดคุ้มทุนอยู่ที่ปี? โอกาสและอุปสรรคที่จะขัดขวางธุรกิจมีอะไรบ้าง? ถ้าคุณศึกษาข้อมูลมากพอ และสามารถตอบคำถามได้ครบทุกข้อ การเริ่มธุรกิจก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แถมยังสามารถวางแผนธุรกิจในระยะยาวได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
4.สำรวจเทรนด์ธุรกิจที่น่าสนใจ
เทรนด์ธุรกิจในสมัยนี้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คุณต้องศึกษาและตามเทรนด์ที่ตลาดต้องการให้ทัน พยายามสำรวจว่าอะไรที่กำลังเป็นกระแส และอันไหนที่สามารถหยิบจับมาต่อยอดกับธุรกิจของตัวเองได้บ้าง ยิ่งถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจำเริ่มทำธุรกิจหรือลงทุนอะไรดี การเลือกสิ่งที่กำลังเป็นกระแสมาทำธุรกิจก็จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้นได้เช่นกัน อาจจะเริ่มจากธุรกิจออนไลน์ แล้วจึงขยายให้เติบโตมากยิ่งขึ้น
แต่การสร้างธุรกิจจากกระแสความนิยมของคนส่วนใหญ่อาจไม่ยั่งยืนนัก เพราะเมื่อความนิยมหรือเทรนด์เปลี่ยนไป หรือเจอคู่แข่งในสายธุรกิจเดียวกันที่มาแรงกว่า อาจทำให้ธุรกิจของเราเจอกับทางตันได้ ดังนั้นเราควรมีแผนสำรองไว้เพื่อปรับตัวให้ธุรกิจไปต่อได้ และที่สำคัญคุณควรสร้างความแตกต่าง จุดเด่น และมองหาความ Unique ของธุรกิจของคุณให้เจอ เพื่อวางจุดยืนของธุรกิจให้มั่นคง หมดกังวลเรื่องตกเทรนด์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5.ศึกษาการวางแผนและบริหารจัดการธุรกิจ
สิ่งสุดท้ายที่คุณควรรู้ก่อนเริ่มสร้างธุรกิจคือ การวางแผนธุรกิจ ไม่ว่าคุณจะเลือกลงทุนกับธุรกิจอะไร การเขียนแผนธุรกิจและวางเป้าหมายนั้นสำคัญมาก เพราะเงินทุนก้อนนี้คุณไม่ได้เอามาทำอะไรเล่น ๆ แล้วทิ้งให้มันเสียหาย หรือปล่อยให้เจ๊งไปง่าย ๆ การเขียนแผนธุรกิจจะทำให้เราสามารถดำเนินธุรกิจไปอย่างมีแบบแผนขั้นตอน และสามารถสร้างการเติบโตของกำไรให้กับธุรกิจได้ด้วย
นอกจากวางแผนแล้ว การทำให้เป็นไปตามแผนก็สำคัญไม่แพ้กัน เมื่อธุรกิจนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและการบริหารจัดการของคุณแล้ว คุณจำเป็นต้องเพิ่มทักษะด้านการบริหารจัดการธุรกิจให้กับตัวเอง และถ้าหากคุณไม่ได้จบการศึกษาหรือมีประสบการณ์การทำงานด้านการบริหารงานมา ยิ่งควรเร่งศึกษาและพัฒนาทักษะในด้านนี้ให้มั่นใจก่อนเริ่มธุรกิจ เพราะเมื่อเริ่มธุรกิจไปแล้วอาจจะมีปัญหามากมายให้คุณต้องจัดการ อย่างเช่น การบริหารจัดการคน แรงงานในการสร้างธุรกิจ การบริหารเงินทุน วิธีจัดการหาพันธมิตรทางการค้าหรือ Supplier การบริหารเวลา หรืออื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งทักษะการบริหารหรือเคล็ดลับการลงทุนเหล่านี้ คุณสามารถศึกษาข้อมูลเบื้องต้นด้วยตัวเองได้จากเว็บไซต์ต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ต คลิปวิดีโอถอดรหัสธุรกิจเจ้าของธุรกิจชื่อดังแบรนด์ต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ หรือสามารถสมัครคอร์สเรียนเกี่ยวกับการบริหารจัดการธุรกิจเพื่อเรียนรู้ให้อย่างละเอียด และปรับใช้ได้จริงก็ได้เช่นกัน
เห็นไหมว่า การเริ่มธุรกิจและเป็นเจ้านายตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่คิดจะทำก็ทำได้เลย แต่ก็เป็นไปได้ไม่ยากนัก หากเราศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดมากพอ เราขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่คิดจะเริ่มธุรกิจเป็นตัวเองสามารถทำตามความฝันได้สำเร็จ สำหรับใครที่มีความพร้อมด้านการเงิน และอยากลงทุนทำธุรกิจอะไรสักอย่าง แต่เลือกไม่ถูกว่าจะทำธุรกิจอะไร ลองศึกษาธุรกิจพาร์ทเนอร์และแฟรนไชส์ของ Quickwash ดูก่อนได้ ธุรกิจล้างรถอัตโนมัติของเราเป็นธุรกิจที่เตรียมความพร้อมไว้ให้คุณแล้ว บริหารจัดการง่าย คืนทุนไว ใช้คนน้อย ไม่ต้องปวดหัวเรื่องการบริหารจัดการคน เราพร้อมซัพพอร์ตและคอยช่วยเหลือธุรกิจของคุณตลอดอายุสัญญา ในครั้งหน้าเราจะเอาเคล็ดลับดี ๆ เกี่ยวกับการทำธุรกิจเรื่องไหนมาฝากอีก กดติดตามไว้ได้เลย