ในทุกๆ การลงทุนนั้นย่อมมีความเสี่ยง ยิ่งหากเป็นนักลงทุนมือใหม่แล้วยิ่งมีความเสี่ยงเป็นอย่างมากเนื่องจากยังขาดประสบการณ์ในการลงทุน และแน่นอนว่าอะไรที่หลีกเลี่ยงได้เราก็ควรจะหลีกเลี่ยง วันนี้เราได้มีการนำ 8 กับดักที่นักลงทุนมือใหม่ต้องระวังให้มากๆ มาคอยเตือนให้ทุกคนอ่านกันค่ะ ไม่กระจายความเสี่ยง การบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญเพราะฉนั้นเวลาซื้อหุ้นหรือลงทุนใดๆ อย่าทุ่มทุนลงหุ้นตัวเดียวหนักๆ หรือกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันเยอะๆ เพราะหากพอถึงเวลาตลาดหุ้นลงแรง หรือมีปัจจัยลบที่มากระทบกับกลุ่มอุตสาหกรรมที่เราถือหุ้นอยู่เวลาขาดทุนพอร์ตเลยเสียหายหนัก!! อย่างนั้นแล้วควรจัดสรรและบริการความเสี่ยงในการลงทุนให้ดี ไม่มีแผนการลงทุน ในการเริ่มต้นการลงทุนทุกครั้ง ควรมีแผนรับมือในการลงทุนต่างๆ ควรศึกษาข้อมูลต่างๆ อย่างละเอียดถี่ถ้วนไม่ว่าจะเป็นข้อมูลบริษัท บริษัทที่เราต้องการจะลงทุนนั้นทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร งบการเงินเป็นอย่างไร ควรที่จะลงทุนในระยะสั้นหรือระยาว หรือว่าบริษัทนี้มีอัตราการจ่ายปันผลสูงหรือไม่!! การมีแผนการลงทุนนี้จะช่วยให้เรารับมือกับความเสี่ยงได้มากขึ้นค่ะ ตั้งเป้าหมายไม่สมจริง นักลงทุนต่างก็รู้กันดี ในทุกๆ การลงทุนเราจะต้องมีการตั้งเป้าหมายในการลงทุนทุกครั้ง และควรตั้งเป้าหมายที่สมจริงและเป็นไปได้ด้วย เพราะกับดักในข้อนี้คือการตั้งเป้าหมายไม่สมจริง เช่น มโนผลตอบแทนเว่อร์ๆ ไม่นึกถึงความเป็นจริงอยากได้กำไร 10-20% ทุกวัน ซึ่งถ้าเป็นนักลงทุนระดับเซียนคงไม่ยากแต่เราเป็นนักลงทุนมือใหม่ควรที่จะตั้งเป้าหมายให้เหมาะสมกับการลงทุนของเรา เล่นหุ้นตามข่าว… เคยมีโอกาสได้คุยกับนักลงทุน ส่วนใหญ่ที่ติดหุ้น คือ ซื้อทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบริษัททำอะไร? เพียงแต่ฟังข่าวลือมา…เชื่อวงใน ซื้อตอนข่าวดีมากๆ และไปขายเอาตอนข่าวร้ายสุดขีด 5.ไม่ทำการบ้าน การลงทุนก็เปรียบเหมือนการเรียนรู้ จะต้องเรียนรู้อัพเดทข้อมูลข้าวสารความเคลื่อนไหวอยู่เสมอ รวมถึงทำการบ้านอยู่สมอ ไม่ว่าจะเป็นการหาหุ้น การอ่านงบ ตีกราฟ และวิเคราะห์แนวโน้มต่างๆ เป็นฝึกความแม่นรวมถึงเพิ่มพูนทักษะและประสบการณ์นั่นเอง อดทนรวย ไม่เป็น!! กับดักข้อนี้เป็นสิ่งที่มือใหม่มักจะพลาดกันมากที่สุด เพราะความใจร้อนกลัวไม่ได้กำไรนั่นเองกำไร หุ้นวิ่งขึ้นไปไม่กี่ช่องแล้วรีบขาย ทำแบบนี้เท่ากับจำกัดกำไรของตัวเอง แต่เมื่อถึงเวลาที่ขาดทุนทนถือกันเป็นปี Cut Loss ไม่เป็น!! Cut Loss คือ การที่นักลงทุนตัดสินใจขายสินทรัพย์ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองขาดทุนมากขึ้นไปอีก และจากคำพูดยอดฮิตของนักลงทุนทั้งหลายที่ว่า “ไม่ขายไม่ขาดทุน” พอถึงถึงจุดคัตไม่คัต หนักไปกว่านั้นซื้อถัวเฉลี่ยขาลง ยิ่งทำให้ขาดทุนเพิ่มขึ้นอีก สุดท้ายทนไม่ไหวไปขายเอาที่ “Low” ลงทุนไม่เน้น เล่นแต่หุ้นซิ่ง ชาวมือใหม่สายเล่นซิ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรระวัง ลงทุนตามสิ่งที่กำลังมาแรงเพราะกลัวตกรถ หวังว่าจะได้รวยเร็ว แต่ไม่คำนึงความยั่งยืน แบบนี้เป็นอีกที่นักลงลงทุนมือใหม่ตกม้าตาย ขาดทุนกันเยอะก็มาจากวิธีนี้ นักลงทุนมือใหม่ใครที่กำลังเจอกับกับดักเหล่านี้ อย่าหลงกลเด็ดขาด ในทุกๆ การลงทุนมีความเสี่ยงควรศึกษาข้อมูลทำความเข้าใจและฝึกฝนหาข้อมูลอยู่เสมอ
การลงทุนก่อนชีวิตวัยเกษียณหลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่ความจริงแล้วเป็นสิ่งที่สำคัญที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม เพราะในช่วงวัยเกษียณเป็นช่วงที่คุณไม่สามารถทำงานเพื่อหาเงินมาเพื่อเลี้ยงชีพตัวเองได้ในขณะ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงต้องแผนการลงทุนเพื่อใช้ชีวิตวัยเกษียณ วันนี้เราจึงอยากนำเสนอบทความ “8 สิ่งต้องรู้ เตรียมลงทุนก่ออนเกษียณ” เพื่อเป็นแนวทางในการเริ่มต้นการลงทุนเพื่อชีวิตในวัยเกษียณของทุกคนกันค่ะ 1.กำหนดอายุเกษียณของตัวเอง ข้อแรกเลยคือการกำหนดว่าตัวเองจะเกษียณอายุในช่วงอายุเท่าไหร่ ซึ่งโดยปกติคนส่วนใหญ่ช่วงวัยที่เกษียณอายุจะอยู่ในช่วง 55 - 60 ปี และหลังจากเกษียณอายุมนุษย์มักมีอายุอยู่ได้ประมาณ 80 ปี แต่หากมากกว่านั้นก็จะมีอายุอยู่ที่ประมาณ 90 ปี ซึ่งนั่นก็หมายถึงว่าช่วงเกษียณอายุของคุณจะอยู่ที่ประมาณ 25 ปีนั่นเอง หมายความว่าเราจะต้องวางแผนการลงทุนเพื่อทำให้ 25 ปีนี้เรามีเงินเพื่อใช้จ่าย 2.กำหนดจำนวนเงินที่ต้องการหลังเกษียณ การกำหนดจำนวนค่าใช้จ่ายหลังการเกษียณสามารถอิงได้จากค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน โดยพิจารณาจากว่าในปัจจุบันมีรายจ่ายที่ออกไปในแต่ละเดือนเท่าไหร่ โดยหักเงินลงทุนในวัยเกษียณส่วนนี้ออกไป เช่น หากคุณอายุ 30 ปี แต่คุณต้องผ่อนรถเดือนละ 6000 เป็นเวลาแปดปี ให้คุณไม่ต้องคิด 6000 บาทส่วนนี้ เพราะเป็นส่วนเงินที่ต้องหมดก่อนหลังการเกษียณ โดยให้คุณคำนวณจากค่ากินค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภค หรือจะเรียกได้ว่าค่าปัจจัยสี่ทั้งหลายในชีวิต ยกตัวอย่างเช่นในแต่ละเดือนคุณใช้เงินอยู่ที่ราว ๆ 20,000 บาท ทั้งนี้จะต้องคำนวณอัตราเงินเฟ้อด้วย เพราะในปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี ทำให้ต้องนำข้อมูลในส่วนตรงนี้มาคำนวณเงินในช่วงวัยเกษียณด้วยเพื่อให้เกิดความสอดคล้องกัน โดยอัตราเงินเฟ้อปริมาณของประเทศไทยประมาณ 2 ถึง 3% ต่อปี โดย 20 ปีข้างหน้าหากคุณเกษียณ เงิน 20,000 บาทจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า สูงสุดถึง 40,000 บาท หากจะคำนวณเป็นเลขกลม ๆ ก็จะเท่ากับเดือนละ 40,000 x 12 = 480,000 บาทต่อปี โดยอายุหลังการเกษียณคิดเป็น 20 ปี ดังนั้นคุณควรจะมีเงินหลังการเกษียณทั้งหมด 9,600,000 บาท โดยประมาณนั่นเองค่ะ 3.ประมาณค่าใช้จ่ายและรายได้หลังการเกษียณ เมื่อถึงเวลาในช่วงวัยเกษียณ คุณจะต้องประมาณการณ์ว่าในช่วงนั้นคุณจะมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง โดยจะต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้ในปัจจุบันด้วย เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าครองชีพต่างๆ และนอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงรายได้หลังการเกษียณ เช่น เงินบำนาญ ซึ่งบางท่านเองก็อาจจะไม่มีรายได้ในส่วนตรงนี้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลอีกเช่นเดียวกัน 4.คำนวณค่าใช้จ่ายและเงินออมที่มีอยู่ โดยให้คุณคำนวณจากค่าใช้จ่ายในปัจจุบันว่าคุณมีเงินออมเท่าไหร่ มีเงินประกันหรือว่าเงินกองทุนต่างๆ สำรองไว้หรือไม่ ซึ่งเราจะนำเงินในส่วนตรงนี้ที่เรามี มาคำนวณเงินในช่วงวัยเกษียณว่าจะต้องเก็บออมหรือหาเพิ่มเติมอีกเท่าไหร่ จึงจะสามารถใช้ชีวิตในวัยเกษียณได้โดยที่ไม่ลำบาก 5.วางแผนการออมในปัจจุบันให้ดี ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดด้วยการวางแผนการออมเงินให้ดี โดยตัวคุณเองจะต้องมีระเบียบวินัยในการออมเงิน โดยคุณสามารถออมเงินได้หลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นการเก็บเงินเข้าบัญชี หรือจะเป็นการลงทุนกับกองทุนรวมต่าง ๆ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกการออมเงินในรูปแบบไหน 6.วางแผนการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อที่ดินในการเก็งกำไรในอนาคต หรือจะเป็นการซื้อคอนโดไว้ปล่อยเช่าก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการวางแผนลงทุนประเภทใช้สินทรัพย์แทนการออมเงิน โดยการลงทุนประเภทนี้จะมีราคาที่เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ เสมือนกับดอกเบี้ย แต่การลงทุนหลังเกษียณก็อาจมีความเสี่ยงอยู่ไม่มากก็น้อย ดังนั้น ควรกระจายความเสี่ยงในการลงทุนหลาย ๆ ประเภท เช่น ลงทุนกับตราสารหนี้ไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ หุ้น ทองคำ น้ำมัน อสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้ลดความเสี่ยงที่จะขาดทุนและอาจช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนได้ 7.วางแผนการเงินก่อนเกษียณเพิ่มขึ้น เมื่อคุณมีเป้าหมายในการลงทุนแล้ว คุณก็จะเห็นถึงทิศทางในการลงทุนเองว่าจะต้องวางแผนเก็บหลังเกษียณอย่างไร ให้คุณออมเงินอย่างสม่ำเสมอและมีระเบียบวินัยกับตัวเองมากที่สุด เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายของเงินออมที่คุณได้ตั้งไว้นั่นเอง 8.ติดตามและตรวจสอบแผนเกษียณอยู่เสมอ ข้อสุดท้ายของการวางแผนเกษียณสไตล์มนุษย์เงินเดือน หากคุณวางแผนเก็บเงินออกมาสักระยะ ให้คุณคอยติดตามเงินที่คุณออมเอาไว้ว่าตอนนี้มีเท่าไหร่แล้ว หรือยังขาดอีกเท่าไหร่ โดยเป็นการติดตามและรายงานผลให้กับตัวคุณเอง เพื่อการออมเงินอย่างเป็นระบบที่มากขึ้น เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับบทความที่เรานำมานำเสนอ “8 สิ่งต้องรู้ เตรียมลงทุนก่ออนเกษียณ” หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนเตรียมตัวและวางแผนการเงินเพื่อลงทุนใช้ในวัยเกษียณอายุของตัวเองกันง่ายขึ้นกันนะคะ ที่มา : https://online.scbprotect.co.th/content/retirement-plans-for-salaryman
“ควิกวอช” ธุรกิจล้างรถอัตโนมัติ วิสัยทัศน์มุ่งมั่นเติบโตอย่างอย่างยั่งยืน เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา ควิกวอช ได้ขยายสาขา เปิดตัวแฟรนไชส์ แรกอย่างเป็นทางการกันที่ ปั๊มปตท.เศรษฐกิจ ซึ่งตั้งอยู่ที่ 174 ม.6 ตำบล บางน้ำจืด อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ได้มีการฉลองสาขากันอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการเปิดให้บริการล้างรถฟรีทั้งหมด 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 16 - 18 เมษายน 2566 แฟรนไชส์ล้างรถ อัตโนมัติ มาตรฐาน โดยใน 3 วันที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าในพื้นที่เป็นอย่างดี มีรถเข้ามาร่วมใช้ บริการ ล้างอัตโนมัติ เป็นจำนวนมาก ซึ่งลูกค้าที่มาใช้บริการ นอกจากจะได้รับรถที่สะอาดเหมือนใหม่แล้ว ลูกค้าทุกท่านจะได้รับบริการที่ดีมีมาตรฐานของ ควิกวอช “มาตรฐาน 4 ส” ดังนี้ สปีด = ล้างรถอัตโนมัติ เร็วใน 7 นาที สมาย = ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมให้บริการ สหาย = บริการด้วยความจริงใจ เสมือนคนครอบครัว สะอาด = ดูแลรถลูกค้าเป็นอย่างดี ใส่ใจทุกรายละเอียด อีกทั้งยังมีการอบรมพนักงาน สร้างคติประจำใจ พร้อมสื่อสารถึงลูกค้า ภายใต้สโลแกน “เร็วกว่าที่คิด เป็นมิตรกว่าที่เคย” รับรองว่าประทับใจกลับไปแน่นอน เมื่อได้ใช้บริการที่ ควิกวอช ทุกสาขา รวมทั้ง Quickwash Franchise สาขา ปตท.เศรษฐกิจ ควิกวอช สาขานี้ถือว่าเป็นการเปิดสาขาในรูปแบบ แฟรนไชส์ (Franchise System) สาขาแรก ของ ควิกวอช โดยการลงทุนในรูปแบบนี้ใช้เงิน ลงทุนแฟรนไชส์ 2.7 ล้านบาท ในส่วนนี้ผู้ลงทุนจะเป็นผู้บริหารจัดการร้านควิกวอชเองทั้งหมด ควิกวอชเองจะคอยดูแลให้คำปรึกษาช่วยเหลือในทุกขั้นตอนการทำงานตั้งแต่ก่อนเปิดร้านไปจนถึงกระบวนการหลังจากเปิดร้านแล้ว มั่นใจได้ว่าเราจะเติบโตไปพร้อมๆ กันอย่างยั่งยืน แฟรนไชส์ในกระแส “ธุรกิจล้างรถ อัตโนมัติ” ควิกวอช ใส่ใจทั้งคู่ค้าและลูกค้า เป็น ธุรกิจล้างรถอัตโนมัติ ที่ตอบโจทย์ในยุคสมัยปัจจุบันเป็นอย่างมาก ฉะนั้นหากคุณกำลังมองหาหรือสนใจ ลงทุนแฟรนไชส์ ล้างรถอัตโนมัติ “ควิกวอช” คาร์แคร์ล้างรถ อัตโนมัติ ก็เป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ ที่น่าสนใจ และตอบโจทย์คนยุคใหม่ เป็นธุรกิจที่มีอนาคตเติบโตอย่างยั่งยืนเช่นกัน “คว้าโอกาสลงทุน ธุรกิจยุคใหม่ไว้ใจควิกวอช” สนใจลงทุนสามารถคลิกได้ที่ https://web.quickwashthailand.com/franchise โทร. 092 - 2812771 หรือ 093 - 1782656