ร้านล้างรถอัตโนมัติควิกวอชของเรา เป็นร้านที่สร้างขึ้นมาให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ทำให้เราเองทำการตลาดและโปรโมชั่นให้เหมาะกับแต่ละกลุ่มเป้าหมายในหลากหลายช่องทางอีกด้วย แบ่งเป็นโปรโมชั่น รูปแบบหน้าร้าน (Offline) ในส่วนของรูปแบบหน้าร้านจะสามารถซื้อได้ที่พนักงานหน้าร้านได้เลย ซึ่งก็จะมีการเปลี่ยนในทุกๆ ไตรมาสหรือ 3 เดือน อย่างในเดือนพฤศจิกายนปี 2565 นี้จะมีเป็นโปรโมชั่น Cool Cool รับลมหนาว สามารถเลือกซื้อได้ทั้งแบบรายครั้ง (Set) และแบบบุฟเฟต์ รูปแบบออนไลน์ (Online) โปรโมชั่นออนไลน์ของควิกวอชเราจะแบ่งออกเป็น 3 หมวดใหญ่ๆ แพ็กเกจ (Package) บุฟเฟต์ (Buffet) คูปอง (Coupon) แพ็กเกจ (Package) รูปแบบแพ็กเกจ เป็นการซื้อเป็นจำนวนครั้งในราคาที่ถูกกว่าการซื้อแยกเป็นครั้งแบบเดี่ยวๆ ทางเราจัดแพ็คเกจมาให้เพื่อความคุ้มค่าให้กับลูกค้า โดยจะแบ่งเป็น 7 แพ็กเกจ ดังนี้ ล้าง 5 ครั้ง แถม 1 ครั้ง เริ่มต้น 445.- ล้าง 10 ครั้ง แถม 2 ครั้ง เริ่มต้น 890.- ล้าง 10 ครั้ง แถม Deep wax 1 ครั้ง เริ่มต้น 890.- ล้าง + Wax 5 ครั้ง แถม 1 ครั้ง เริ่มต้น 595.- ล้าง + Wax 10 ครั้ง แถม 2 ครั้ง เริ่มต้น 1,190.- ล้าง+wax+ดูดฝุ่น 5 ครั้ง แถม 1 ครั้ง เริ่มต้น 675.- ล้าง+wax+ดูดฝุ่น 10 ครั้ง แถม Deep wax เริ่มต้น 1,270.- หมายเหตุ Package 6 และ 7 ดูดฝุ่น (สาขาวิภาวดี 36 รับดูดฝุ่นทุกวันสาขาอื่นๆ รับเฉพาะวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์เท่านั้น) แพ็กเกจมีอายุ 60 วัน โปรนี้นับวันที่ 1 จากวันที่ชำระเงิน การซื้อ 1 ครั้งใช้ได้ 1 ทะเบียนเท่านั้น ล้างด้วยเครื่องล้างอัตโนมัติ Buffet (ล้างไม่อั้น) เป็นโปรโมชั่นที่ทำขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้าชอบใช้บริการล้างรถเป็นประจำ โปรโมชั่นนี้จะตอบโจทย์มากๆ เพราะภายในระยะเวลา 30 หรือ 90 วัน สามารถมาล้างรถได้ทุกวันและจำนวนกี่ครั้งก็ได้ แบบนี้ถูกใจสายล้างรถแน่ๆ เลยใช่ไหมคะ โดยโปรบุฟเฟต์แบ่งเป็น 6 เมนู ดังนี้ ล้าง 30 วัน เริ่มต้น 599.- เงื่อนไข ล้างกี่ครั้งก็ได้ไม่อั้นภายใน 30 วัน โปรนี้นับวันที่ 1 จากวันที่ชำระเงิน การซื้อ 1 ครั้งใช้ได้ 1 ทะเบียน เท่านั้น ล้างด้วยเครื่องล้างอัตโนมัติ ล้าง 60 วัน เริ่มต้น 1,079.- เงื่อนไข ล้างกี่ครั้งก็ได้ไม่อั้นภายใน 60 วัน โปรนี้นับวันที่ 1 จากวันที่ชำระเงิน การซื้อ 1 ครั้งใช้ได้ 1 ทะเบียน เท่านั้น ล้างด้วยเครื่องล้างอัตโนมัติ ล้าง 90 วัน เริ่มต้น 1,599.- เงื่อนไข ล้างกี่ครั้งก็ได้ไม่อั้นภายใน 90 วัน โปรนี้นับวันที่ 1 จากวันที่ชำระเงิน การซื้อ 1 ครั้งใช้ได้ 1 ทะเบียน เท่านั้น ล้างด้วยเครื่องล้างอัตโนมัติ ล้าง + Wax 30 วัน เริ่มต้น 699.- เงื่อนไข ล้างกี่ครั้งก็ได้ไม่อั้นภายใน 30 วัน โปรนี้นับวันที่ 1 จากวันที่ชำระเงิน การซื้อ 1 ครั้งใช้ได้ 1 ทะเบียน เท่านั้น ล้างด้วยเครื่องล้างอัตโนมัติ ล้าง + Wax 60 วัน เริ่มต้น 1,179.- เงื่อนไข ล้างกี่ครั้งก็ได้ไม่อั้นภายใน 60 วัน โปรนี้นับวันที่ 1 จากวันที่ชำระเงิน การซื้อ 1 ครั้งใช้ได้ 1 ทะเบียน เท่านั้น ล้างด้วยเครื่องล้างอัตโนมัติ ล้าง + Wax 90 วัน เริ่มต้น 1,599.- เงื่อนไข ล้างกี่ครั้งก็ได้ไม่อั้นภายใน 90 วัน โปรนี้นับวันที่ 1 จากวันที่ชำระเงิน การซื้อ 1 ครั้งใช้ได้ 1 ทะเบียน เท่านั้น ล้างด้วยเครื่องล้างอัตโนมัติ Car Detailing แบ่งเป็น 5 เมนู ดังนี้ ล้างยางมะตอย เริ่มต้น 400.- เคลือบกระจก เริ่มต้น 200.- ล้างห้องเครื่อง เริ่มต้น 400.- ล้างรถ + Deep wax (Combo) เริ่มต้น 330.- ล้างรถ + ดูดฝุ่น + Deep wax เริ่มต้น 410.- เงื่อนไข แพ็กเกจมีอายุ 30 วัน โปรนี้นับวันที่ 1 จากวันที่ชำระเงิน การซื้อ 1 ครั้งใช้ได้ 1 ทะเบียน เท่านั้น ล้างด้วยเครื่องล้างอัตโนมัติ สาขาวิภาวดีบริการทุกวัน สาขาอื่นๆ บริการเฉพาะ วันจันทร์ - ศุกร์ วิธีการซื้อ สามารถสั่งซื้อโปรโมชั่นออนไลน์ได้ที่ : https://web.quickwashthailand.com/sale-menu-online เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับโปรโมชั่นจากทางควิกวอช ทั้งถูกและคุ้มค่ามากๆ สำหรับใครที่ถูกใจโปรโมชั่นตัวไหนมาเลือกใช้บริการที่ควิกวอชกันได้นะคะ รับรองว่าคุ้มค่าราคาประหยัดแน่นอน
หลายคนอาจจะยังสังสัยไม่รู้ว่าระหว่าง Wax และ Deep Wax แตกต่างกันอย่างไร ? วันนี้เราจะนำข้อมูลมาบอกให้ทุกคนทราบกันค่ะว่าทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกันอย่างไร และทำไมเราต้องเคลือบแว็กซ์ (Wax) รถกัน มาอ่านไปพร้อมๆ กันกับบทความนี้ได้เลยค่ะ Wax (แว็กซ์) เป็นการเคลือบสีรถโดยใช้เครื่องล้างรถอัตโนมัติในการฉีดพ่นเคลือบผิวรถหลังจากการล้างรถเสร็จ เพื่อเป็นการป้องกันฝุ่น และละอองน้ำ เพิ่มความเงางามผิวรถลื่นขึ้นทำให้ล้างรถได้ง่าย ซึ่งการลงแว็กซ์นี้มีระยะเวลาป้องกันได้ในระยะหนึ่งเท่านั้น Deep Wax เป็นการเคลือบแว็กซ์สีรถโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อเป็นการป้องกันฝุ่น ละอองน้ำ และยังป้องกันสีรถซีดจากการถูกแดดเลียได้อีกด้วย แถมระยะเวลาป้องกันได้นานกว่าแว็กซ์แบบธรรมดา การแว็กซ์ (WAX) มีประโยชน์อย่างไร ป้องกันรอยขีดข่วน ประโยชน์ของการเคลือบแว็กซ์อย่างถูกวิธี จะสามารถช่วยให้เศษสิ่งสกปรกต่างๆ เช่น ทรายหรือกรวดเล็กๆ ที่มาจากการใช้งานบนท้องถนน ซึ่งสิ่งนี้เป็นสาดหตุหลักที่ทำให้รถของคุณเกิดรอย หรือที่เรียกกันว่ารอยขนแมว ซึ่งแว็กซ์จะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันโดยมันมีการสร้างชั้นฟิล์มบาง ๆ มาเคลือบทับสีรถทำให้รถเป็นรอยยาก ทำให้ผิวรถลื่น ล้างได้ง่ายขึ้น การแว็กซ์สีรถเป็นประจำจะช่วยเพิ่มเกราะป้องกัน ซึ่งจะทำให้ผิวรถลื่น ถ้าจะพูดให้เห็นภาพคือถ้าหากแว็กซ์แล้ว น้ำที่มาโดนกับผิวรถจะเป็นหยดน้ำกลม เหมือนกับน้ำกลิ้งบนใบบอนเลย ช่วยป้องกันคราบสกปรกต่าง ๆ ทำให้คราบไม่สามารถเกาะติดบนสีรถได้ ป้องกันความเสียหาย แว็กซ์ที่มีคุณภาพสูง ๆ มันสามารถป้องกันได้แม้กระทั่งก้อนกรวดขนาดเล็กที่อาจจะกระเด็นมาจากทิศทางไหนได้ โดยเฉพาะในขณะที่เราขับตามหลังรถบรรทุกดิน ทราย ซึ่งยากที่จะหลีกเลี่ยง จากการที่กระเด็นมาโดนหน้ารถเรา หากมีการแว็กซ์เคลือบไว้ จะสามารถป้องกันได้ในระดับนึง รักษาความเงางาม เมื่อคุณแว็กซ์รถเป็นประจำ มันจะเป็นเหมือนการทาครีมกันแดดบนผิวเราครับ ซึ่งจะเป็นการช่วยปกป้องสีเดิมไม่ให้โดนแสงแดดทำลายได้โดยตรง และแว็กซ์ยังทำให้สีรถของคุณดูสดใหม่ เงางามอยู่เสมอ ซึ่งสีรถที่ไม่มีการแว็กซ์ป้องกันอาจแห้ง ขาดความเงางาม ทำให้รถดูเป็นรถเก่าได้ ลดรอยขีดข่วน ถึงแม้ว่าการแว็กซ์มันจะไม่สามารถปกปิด ซ่อน หรือซ่อมแซมรอยขีดข่วนลึก ๆ ที่มีอยู่เดิมได้ แต่มันก็สามารถทำให้รอยขีดข่วนนั้นดูตื้นขึ้น และทำช่วยให้มันดูน้อยลงได้อย่างเห็นได้ชัด ป้องกันน้ำ แว็กซ์จะเป็นสารที่ไม่ชอบน้ำและมีคุณสมบัติขับไล่น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะในบางพื้นที่บางสภาพแวดล้อมรถยนต์ของเราต้องเจอกับฝนที่กลายเป็นกรด หรือด่างอ่อน ๆ ทำให้เกิดความเสียหายต่อผิวรถ ดังนั้นการใช้แว็กซ์จะลดการเกาะตัวของน้ำ สามารถปกป้องรถของคุณได้เป็นอย่างดี เพิ่มมูลค่าการขายต่อ สำหรับคนที่เล่นรถมือสอง สิ่งแรกที่พวกเขาจะดูก็คือ สีรถ เหตุผลก็เพื่อดูว่ารถคันนี้เคยมีการประสบอุบัติเหตุมาหรือไม่เคยมีการทำสีส่วนไหนบ้าง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะทำให้ราคา ของรถ ลดลง แต่หากสีรถของคุณเป็นสีเดิมจากโรงงานและยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ สิ่งนี้ก็จะทำให้รถมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ข้อควรพิจารณา ในการเลือกใช้ แว็กซ์ ที่เหมาะสม สามารถเลือกโปรแกรมการใช้งานได้ตามความเหมาะสมของทุกท่านได้เลย ซึ่งการ Wax และ Deepwax มีลักษณะที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งถ้าเป็นรถการใช้งานธรรมดาไม่ต้องการการป้องกันมากราคาถูก ทางเราแนะนำว่าให้เลือกเป็นการแว็กซ์แบบธรรมดา แต่หากต้องการเคลือบแว็กซ์ที่ให้การป้องกันที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นป้องกันได้ดีกว่า ก็ขอแนะนำเป็นการทำ Deep Wax โดยราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามประสิทธิภาพของการป้องกันนั้นๆ ข้อควรระวังในการเคลือบแว็กซ์ ! การเคลือบแว็กซ์ (Wax) คือ วิธีการที่ง่ายที่สุดสำหรับการปกป้องรถของคุณ ซึ่งมีต้นทุนไม่สูง สามารถให้คุณใช้เคลือบสีรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้มันจะปกป้องได้เพียงไม่กี่วัน แต่ก็สามารถปกป้องรถของคุณได้เป็นอย่างดีไม่ต่างจากการเคลือบแบบอื่น ๆ และที่สำคัญคุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ที่บ้าน เพียงแค่ฉีด ๆ แล้วนำผ้ามาขัดเป็นวงให้ทั่วทั้งคัน แต่การเคลือบแว็กซ์ (Wax) มันก็มีข้อที่คุณต้องระวังด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะแว็กซ์ประเภทที่สามารถฉีดลงไปบนคราบโดยตรง ก็อื่นคุณต้องรู้ก่อนว่าคราบสกปรกบนผิวรถมันมีเศษดิน เศษกรวดเล็ก ๆ ปะปนอยู่ด้วย ดังนั้นหากคุณใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เพียงผืนเดียวมาจัดการทั้งหมด มันจะทำให้เศษกรวดเข้าไปอยู่ในผ้า และแน่นอนครับเมื่อคุณขัดไปบนผิวรถซ้ำ ๆ กรวดเหล่านี้มันก็พร้อมที่จะฝากรอยขนแมวไว้บนผิวรถของคุณ ฉะนั้นเราของแนะนำให้คุณใช้ผ้าหลาย ๆ ผืนในการจัดการครับ เพื่อป้องกันรอยขนแมว การเคลือบแว็กซ์ (Wax) เองก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากต้องการแว็กซ์สีรถควรศึกษารายละเอียดและเลือกร้านบริการให้ดี เลือกร้านที่ไว้วางใจได้ หรือเลือกใช้รูปแบบต่างๆ ได้ตามความเหมาะสมของรถยนต์ของทุกท่านได้เลย หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ และช่วยทำให้การติดสินใจเลือกใช้บริการได้ง่ายมากยิ่งขึ้นนะคะ
QuickWash (ควิกวอช) ร้านล้างรถอัตโนมัติ ล้างรถเร็วใน 7 นาที ราคาเริ่มต้น 89 บาท มีจุดเริ่มต้นในปี 2017 จากการที่เราเริ่มตั้งคำถามง่ายๆ ว่า “ทำไมการล้างรถมันถึงเป็นเรื่องยุ่งยากเหลือเกิน? ได้รับบริการไม่ค่อยมีมาตรฐาน ล้างสะอาดบ้างไม่สะอาดบ้าง แล้วก็ต้องรอนาน สุดท้ายกลับให้ความรู้สึกไม่คุ้มเลย” เราได้เล็งเห็นถึงปัญหานี้และอยากมีส่วนร่วมแก้ไข เราจึงได้พัฒนา Quick Wash ร้านล้างรถอัตโนมัติขึ้นมาเพื่อคนไทย โดยทำให้ “การล้างรถต้องไม่ใช่เรื่องยากและคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด” ควิกวอชมีบริการอะไรบ้าง ร้านล้างรถอัตโนมัติของเรามีบริการมากมายหลายอย่างตอบโจทย์คนรักรถอย่างเราๆ มีตั้งแต่ล้างรถไปจนถึงบริการ Car Detailing ที่สามารถดูแลรถได้อย่างลงลึกและเก็บรายละเอียดมากขึ้นเลย ในส่วนของราคาจะแบ่งจากขนาดของไซส์รถยนต์ โดยบริการหลักที่ให้บริการทุกสาขาได้แก่ ล้างรถ ล้างรถ+แว็กซ์ (เครื่อง) ล้างรถ+ดูดฝุ่น ล้างรถ+แว็กซ์+ดูดฝุ่น เคลือบ Deep Wax ล้างยางมะตอย เคลือบกระจก (บานหน้า) ขัดกระจกโคมไฟคู่หน้า ขัดลบรอย (เฉพาะจุด) แต่หากเป็น Quickwash plus+ ตั้งอยู่ที่ สาขาวิภาวดี 36 จะมีบริการ Care Detailing ที่ละเอียดลงลึกเพิ่มเติมขึ้นไปอีกเนื่องจากเป็นสาขาใหญ่และมีพนักงานพร้อมให้บริการ ซึ่งมีรายการเพิ่มเติมมาดังนี้ ขัดดินน้ำมัน + เคลือบ Deep Wax ขัดชักเงา Wet Look ขัดคลาบน้ำบนกระจก+เคลือบกระจก (บานหน้า) ขัดเคลือบเบาะหนังทั้งคัน ซักเบาะผ้าทั้งคัน ขัดเบาะหนัง / พร้อมซักพรมพื้นทั้งคัน ซักเบาะผ้า/พร้อมซักพรมพื้นทั้งคัน ซักเบาะผ้า/ขัดเบาะหนัง (ต่อตัว) ล้างห้องเครื่อง เคลือบแก้ว เคลือบแก้วรับประกัน 3 ปี โดยขนาดไซซ์รถของเรามีตั้งแต่ไซซ์เล็กสุด S M/L XL ไปจนถึงไซซ์ XXL กันเลย โดยเครื่องล้างรถของเราสามารถล้างรถได้ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ที่สุดที่รถตู้ เพราะเครื่องล้างอัตโนมัติของเราใช้ระบบเซ็นเซอร์ในการตรวจวัดขนาดของรถแต่ละไซซ์ทำให้มั่นใจได้ว่าหากมาใช้บริการร้านล้างรถอัตโนมัติของเรา รถของคุณจะปลอดภัยอย่างแน่นอน สามารถเช็กยี่ห้อรถเพื่อเทียบไซส์ได้ที่ตารางด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ หมายเหตุ : หากไม่มีรุ่นรถของท่านอยู่ในตารางนี้ ขนาดจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงาน สามารถไปใช้ QuickWash ที่ไหนได้บ้าง ? ในตอนนี้ควิกวอชมีร้านล้างรถอัตโนมัติให้บริการครอบคลุมกรุงเทพฯ และปริมณฑล ถึง 13 สาขา และกำลังขยายสาขาเพิ่มมากขึ้นในอนาคต สามารถเลือกไปใช้บริการกันได้เลย Quickwash ทั้ง 13 สาขาได้แก่ Quick Wash วิภาวดี 36 Quick Wash ESSO บางพูด Quick Wash ESSO หนองแขม Quick Wash PTT บางบอน Quick Wash ESSO กาญจนา Quick Wash ESSO ประชาอุทิศ Quick Wash ESSO อ่อนนุช Quick Wash ESSO ปิ่นเกล้า Quick Wash ESSO ราชพฤกษ์ Quick Wash Caltex กิ่งแก้ว Quick Wash PTT ร่มเกล้า Quick Wash Shell สายไหม Quick Wash Susco เอกชัย QuickWash ของเราเป็นร้านล้างรถอัตโนมัติที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “การล้างรถต้องไม่ใช่เรื่องยากและคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด”ดังนั้นบริการและราคาจึงถูกตั้งขึ้นมาเพื่อให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ที่เรายึดถือ
ในปัจจุบัน มีหลากหลายธุรกิจแฟรนไชส์มากมายที่ให้เราลือกมาลงทุน หากคุณกำลังมองหาไอเดียลงทุน วันนี้เราจึงรวมธุรกิจแฟรนไชส์น่าลงทุนปี 2022 มานำเสนอขอมูลให้ตัดสินใจกันค่ะ ควิกวอช Quick wash (ควิกวอช) QuickWash (ควิกวอช) ร้านล้างรถอัตโนมัติ ล้างรถเร็วใน 7 นาที ราคาเริ่มต้น 89 บาท มีจุดเริ่มต้นในปี 2017 จากการที่เราเริ่มตั้งคำถามง่ายๆ ว่า “ทำไมการล้างรถมันถึงเป็นเรื่องยุ่งยากเหลือเกิน? ได้รับบริการไม่ค่อยมีมาตรฐาน ล้างสะอาดบ้างไม่สะอาดบ้าง แล้วก็ต้องรอนาน สุดท้ายกลับให้ความรู้สึกไม่คุ้มเลย” เราได้เล็งเห็นถึงปัญหานี้และอยากมีส่วนร่วมแก้ไข เราจึงได้พัฒนา Quick Wash ร้านล้างรถอัตโนมัติขึ้นมาเพื่อคนไทย โดยทำให้ “การล้างรถต้องไม่ใช่เรื่องยากและคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด” เครื่องล้างรถอัตโนมัติเป็นเครื่องล้างที่นำเข้ามาจากสเปน มีเทคโนโลยีรับรู้ลักษณะยานพาหนะและปรับระยะให้เข้ากับรถได้อย่างดีเยี่ยม โดยเราใช้น้ำยาล้างรถนำเข้าจากยุโรปมีจุดเด่นในเรื่องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของการประหยัดน้ำและพลังงาน ทำให้มั่นใจว่าได้ว่าจะได้รับบริการที่มีคุณภาพและมาตรฐาน นอกจากนี้ขนแปรงล้างรถผลิตจากวัสดุโฟม ฟูนุ่ม น้ำหนักเบา ไม่อมน้ำ เคลือบด้วยน้ำยาพิเศษ จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดร่องรอยต่างๆ หรือไม่เป็นอันตรายต่อสีรถแน่นอน รูปแบบการลงทุนแฟรนไชส์ควิกวอช มี 2 รูปแบบ Partner เจ้าของที่ดิน เริ่มต้น 1 ล้านบาท (ระยะสัญญา 6 ปี) เจ้าของปั้มน้ำมัน เริ่มต้น 1 ล้านบาท (ระยะสัญญา 6 ปี) เจ้าของร้านล้างรถในปั้ม เริ่มต้น 5 แสนบาท (ระยะสัญญา 6 ปี) Franchise บุคคลทั่วไป เริ่มต้น 2.5 ล้านบาท ระยะสัญญา 9 ปี เจ้าของร้านล้างรถ เริ่มต้น 1 ล้านบาท ระยะสัญญา 6 ปี 2.FamilyMart ธุรกิจเแฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อที่ได้รับความนิยมใช้บริการกันมากในประเทศ มีการปรับโมเดลธุรกิจเพื่อเสริมจุดขายและดึงดูดลูกค้าอยู่เสมอ เช่น โอเด้ง, การนำเข้าสินค้าใหม่ ๆ และการสะสมแต้มบัตร The 1 Card เป็นต้น ข้อดีของแฟรนไชส์ FamilyMart คือลงทุนค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับร้านสะดวกซื้อชื่อดังอย่าง 7-11 ที่สำคัญยังมีการการันตีรายได้ขณะดำเนินกิจการด้วย ซึ่งหากสนใจลงทุนธุรกิจมินิมาร์ทนี้ก็มีค่าแฟรนไชส์อยู่ที่ 80,000 บาท ใช้งบในการลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 440,000 บาท โดยมีระยะเวลาสัญญาที่ 6 ปี ส่วนระยะเวลาคืนทุนอยู่ราว ๆ ที่ 2 - 3 ปี 3.ชีสซี่ ฟราย ธุรกิจแฟรนไชส์ของทานเล่น สแน็ค แฟรนไชส์เฟรนซ์ฟราย ซอสชีสสูตรไม่เลี่ยน รส แซ่บ อร่อยไม่เหมือนใครเป็นแฟรนไชส์ขนมทานเล่นของคนรุ่นใหม่สไตล์ชิค กำไรดี ของใหม่มาแรง ติดกระแส ขายดีทุกที่ ทานได้ทุกเพศ ทุกวัย หลากหลายรสชาดให้กับลูกค้า ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 29,900 บาท งบการลงทุน 29,900 -180,000 บาท หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 063-5929929 รูปแบบการลงทุนเริ่มต้น ราคา 29,900 บาท เหมาะสำหรับพื้นที่ชั่วคราว ออกอีเว้นท์ ตลาดนัด ไนท์บาร์ซ่า ที่ต้องเก็บของทุกวันหรือ พื้นที่ เล็ก 2 * 2 เมตร เจ้าของแฟรนไชส์สามารถออกแบบร้านให้เหมาะกับทำเล หรือพื้นที่ที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ให้มาได้ และพร้อมวัตถุดิบพร้อมขาย 4.ชิกกี้ ชิก ร้านแฟรนไชส์ไก่ทอด ปัจจุบันมีสาขาแฟรนไชส์มากกว่า 220 สาขาทั่วประเทศสินค้าของชิกกี้ชิก ผลิตจากโรงงานมาตรฐานส่งออกผ่านการรับรอง GMP, HACCP, BRC และฮาลาล ผลิตด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ทำให้สินค้าสามารถเก็บได้นานและยังคงรสชาติ คุณภาพไว้อย่างครบถ้วน พร้อมปราศจากวัตถุกันเสียและสารปรุงแต่งที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 5,000 บาท งบการลงทุน 45,000 – 150,000 บาท โทร. 085-9956242 โมเดลธุรกิจมี 7 รูปแบบให้เลือกลงทุนตามลักษณะของทำเลและงบประมาณการลงทุน ตั้งแต่คีออส ซุ้มในปั๊มน้ำมัน ซุ้มโรงอาหาร เคาท์เตอร์บาร์ ไปจนถึงรูปแบบร้านอาหารพร้อมที่นั่งรับประทาน Otteri Wash & Dry ร้านสะดวกซักชื่อดังที่เป็นที่นิยม เป็นร้านซัก-อบแห้งแบบหยอดเหรียญ 24 ชั่วโมงเหมาะเป็นอย่างมากในพื้นที่ชุมชน, คอนโด, หมู่บ้าน, หอพักในตัวเมือง ฯลฯ ในปัจจุบันมีจำนวนสาขา 608 สาขาทั่วประเทศ การัณตีความเป็นที่นิยมความฮอตของแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักนี้ ข้อดี ได้รางวัลการันตีคุรภาพทั้งระบบโลกและระดับประเทศ เป็นผู้นำธุรกิจร้านสะดวกซัก มีการตกแต่งร้านที่ทันสมัย เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยม และมีชื่อเสียง ราคาเริ่มต้น เครื่อง Oasis 2,380,000 บาท – 3,149,000 บาท เครื่อง Huebsch 2,743,750 บาท – 3,608,900 บาท
หลายๆ คนอาจจะสงสัยหรือยังสับสนอยู่ว่า Brand (แบรนด์) คืออะไร และทำไมถึงสำคัญกับการทำธุรกิจ วันนี้เรามาหาคำตอบผ่านบทความนี้กันค่ะ แบรนด์ คืออะไร แบรนด์ คือ วิธีการที่บริษัทสร้างความแตกต่างจากแบรนด์ระดับเดียวกัน เป็นความประทับใจโดยรวมของสินค้าและการบริการ ซึ่งแบรนด์จะถือได้ว่าเป็นบุคลิกภาพของบริษัท โดยจะมีการสื่อสารผ่านเครื่องหมาย โลโก้ ชื่อ สโลแกน น้ำเสียง และโทน แบรนด์มี 3 ประเภทหลัก ได้แก่ แบรนด์ของบริษัท/บริษัท แบรนด์ผลิตภัณฑ์ และแบรนด์ส่วนบุคคล ซึ่งใช้กับบุคคล กฎการตลาดของแบรนด์มีผลบังคับใช้ โดยไม่คำนึงถึงประเภท ตอนนี้เรารู้แล้วว่าแบรนด์คืออะไร เรามาพูดถึงวิธีสร้างกลยุทธ์การตลาดแบรนด์กัน การทำการตลาดของแบรนด์เป็นกระบวนการในการสร้างและเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค แทนที่จะเน้นผลิตภัณฑ์หรือบริการแต่ละรายการ การตลาดของแบรนด์จะช่วยสร้างความสมบูรณ์แบบของแบรนด์ โดยใช้ผลิตภัณฑ์และบริการเป็นสิ่งที่พิสูจน์คำมั่นสัญญาของแบรนด์ โดยมีเป้าหมายของการตลาดแบรนด์คือการสร้างมูลค่าแบรนด์และสร้างมูลค่าให้กับบริษัทด้วย ช่องทางที่ใช้สำหรับการทำกลยุทธ์การตลาดแบรนด์เป็นช่องทางเดียวกับที่บริษัทต่างๆ มักใช้ทำการตลาดกัน เช่น โฆษณาดิจิทัล โซเชียล และการค้นหาที่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งการทำกลยุทธ์ที่ดีคือการใช้ช่องทางต่างๆ ร่วมกันเพื่อสร้างสื่อผสมที่เข้าถึงผู้ชมในวงกว้าง ตัวอย่างเช่น นักการตลาดแบรนด์อาจใช้กลยุทธ์การโฆษณาแบรนด์เสริมด้วยการทำการตลาดผ่านทางอีเมลล์และเนื้อหาเพื่อกระตุ้นการรับรู้ถึงแบรนด์และเข้าถึงผู้ที่มีโอกาสมาเป็นลูกค้าในพื้นที่ที่หลากหลาย แต่การทำเช่ยยี้จำเป็นต้องเลือกข้อความหรือสื่อที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่สื่อนั้นๆ ด้วยเช่นกัน คุณลักษณะของแบรนด์ หากเปรียบแบรนด์เป็นผู้คนแต่ละคนก็จะต้องมีบุคลิกภาพที่เด่นเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แบรนด์ก็มีคุณลักษณะเฉพาะเช่นกันคุณลักษณะเป็นตัวระบุที่ผู้บริโภคมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ ซึ่งอาจรวมถึงชื่อและสโลแกน สี หรือแม้แต่เพลงหรือเสียงที่มักเกี่ยวข้องกับแบรนด์ นอกจากนี้ คุณลักษณะอาจเป็นความรู้สึกที่แบรนด์กระตุ้น ตัวอย่างคุณลักษณะ ความรู้สึก เช่น ของแท้ สร้างสรรค์ เชื่อถือได้ ซื่อสัตย์ และโปร่งใส ทำไมต้อง สร้างแบรนด์ เพราะการสร้างแบรนด์เป็นการวางแผนทุกอย่างเพื่อให้เกิดวิสัยทัศน์ เป้าหมายองค์กร หรือ ลักษณะนิสัย ให้ชัดเจน เพื่อที่จะทำการสื่อสารทางการตลาดได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด แต่ก่อนที่จะสื่อสารไปยังภยนอก เราเองจำเป็นจะต้องรู้จักตัวเองให้ดีที่สุด และหากเราจักตัวเองดีพอแล้ว มีอะไรที่เกี่ยวกับเราบ้าง ที่จะทำให้เราเป็นที่จดจำ ผู้คนสามารถจำเราได้จากสิ่งนี้ เพราะฉะนั้น แบรนด์จึงไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ โลโก้ แต่เป็นตัวตนของสิ่งสิ่งนั้นที่แสดงออกมาให้คนอื่นเห็นได้อย่างชัดเจนเพื่อสื่อให้ถึงเป้าหมายของแบรนด์นั้นให้เกิดปฏิสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ จึงจะเพิ่มมูลค่าของสินค้า หรือ บริการต่างๆ ให้ดีเยี่ยม ทำไมการสร้างแบรนด์จึงสำคัญ ? การสร้างแบรนด์อาจมีความสำคัญมาก เนื่องจากตลาดเกิดความอิ่มตัวมากขึ้นจึงเป็นเรื่องยากในการสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับผู้บริโภค โดยการสร้างแบรนด์จะช่วยบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ การสร้างแบรนด์อาจมีความสำคัญมากกว่าที่เคยเป็นมา เนื่องจากตลาดมีความอิ่มตัวมากขึ้นและยากต่อการสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับผู้บริโภค การสร้างแบรนด์ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถบอกเล่าเรื่องราวที่เป็นเอกลักษณ์และสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าเชื่อชั่น สร้างความน่าสนใจให้กับแบรนด์ หลังจากนั้นจะเป็นการเชิญชวนให้ลูกค้าค้นพบ เรียนรู้ และสร้างความสัมพันธ์อันน่าจดจำกับแบรนด์ของพวกเขา หัวใจหลักของการสร้างแบรนด์ คือ การทำให้ผู้บริโภครู้สึกดีกับการสนับสนุนบริษัทและสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์ แบรนด์เหล่านั้นสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งช่วยเพิ่มการสนับสนุนและความภักดีของลูกค้าในระยะยาว ข้อดีของการสร้างแบรนด์ เพราะการสร้างแบรนด์ เป็นการวิเคราห์เพื่อกำหนดตัวตนของธุรกิจให้สอดคล้องไปกับสินค้าหรือบริการและต้องสอดคล้องไปกับความต้องการของผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์อีกด้วย เพราะฉะนั้นการสร้างแบรนด์ทำให้เราสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ทำให้แบรนด์มีแผนและแนวทางที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนธุรกิจ รู้ข้อดีข้อเสียซึ่งหากเราทราบถึงจุดบกพร่องแล้ว เรานำไปปรับปรุงพัฒนาได้อย่างถูกจุดและมีประสิทธิภาพ การสร้างแบรนด์จึงมีความจำเป็นอย่างมากในการดำเนินธุรกิจ สร้างแบรนด์แล้วได้อะไร? ผลที่ได้จากการสร้างแบรนด์หลักๆ เลยนั่นก็คือ การที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายเห็นและจดจำเราได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นผ่าน โลโก้ (Logo) หรือเครื่องหมายการค้า สโลแกน หรือ Key Message รวมถึงภาพลักษณ์อื่นๆ นอกจากนี้การสร้างแบรนด์ยังทำให้เราทำการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย การสร้างแบรนด์เป็นมากกว่าการสร้างภาพลักษณ์ การกำหนดอัตลักษณ์ที่ถูกต้องจะต้องช่วยพัฒนาธุรกิจอย่างรอบด้าน ช่วยส่งเสริมผลิตภัณฑ์และบริการให้ดียิ่งขึ้นเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการธุรกิจ เข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ฯลฯ เพราะฉะนั้นการสร้างแบรนด์จึงไม่ใช่การสร้างภาพลักษณ์ที่ชัดเจนเท่านั้น แต่เป็นการวิเคราะห์เพื่อกำหนดตัวตนของแบรนด์ในทุกๆ ด้าน เพื่อให้สัมพันธ์สอดคล้องและส่งเสริมกัน นี่จึงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังช่วยขับเคลื่อนแบรนด์ให้มีพื้นฐานที่มั่นคง สร้างโอกาสในการแข่งขัน และมีแนวทางในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องชัดเจน สร้างแบรนด์ช่วยให้มีแผนและการประเมินผลที่ชัดเจน การสร้างแบรนด์และตัวตนของธุรกิจ เป็นกระบวนการที่ต้องรวบรวมข้อมูลหลากหลายใช้ทั้งศาสตร์ และศิลป์วิเคราะห์และกำหนดเป็นแนวทางในการขับเคลื่อน “แผนการสร้างแบรนด์” ซึ่งต้องใช้เวลาในการพัฒนาแผน การพัฒนาแบรนด์จึงอาจเป็นหนึ่งเดียวกันกับแผนธุรกิจ การมีแผนในการขับเคลื่อนธุรกิจเป็นพื้นฐานที่แม่นยำในการวิเคราะห์ตรวจสอบประเมินผล เพื่อปรับแนวทางของธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่ธุรกิจกำหนดไว้ 3 สิ่งที่ต้องจำในการทำการตลาดแบรนด์ อย่าลืมว่าการสร้างแบรนด์และการตลาดนั้นแตกต่างกัน แบรนด์ของบริษัทคือบุคลิกภาพและการตลาดคือการที่บริษัทแบ่งปันบุคลิกภาพนั้นกับผู้บริโภค ใช้เวลากับการวิจัยหรือการวัดผล หากปราศจากความขยันหมั่นเพียรที่จะรู้ว่าเพื่อนร่วมงานของแบรนด์อยู่ในตำแหน่งใด ก็ยากที่จะแยกแยะแบรนด์ และหากไม่มีการระบุแหล่งที่มาทางการตลาดที่เหมาะสม เป็นเรื่องยากที่จะทราบว่าแบรนด์ใดมีการเคลื่อนไหวหรือไม่ การใช้เวลาทั้งการวิจัยและการวัดผลจะช่วยกำหนดกลยุทธ์และความสำเร็จสำหรับแบรนด์ของคุณ แสดงคุณลักษณะของแบรนด์ (แทนการบอก) บริษัทอาจต้องการวางตำแหน่งแบรนด์ของตนว่าน่าเชื่อถือ แต่ไม่ควรบอกว่าเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ แต่ควรแสดงความน่าเชื่อถือผ่านผลิตภัณฑ์และการบริการลูกค้าที่เชื่อถือ การตลาดของแบรนด์เป็นการเน้นย้ำจุดแข็งของแบรนด์เพื่อให้มีพลังอยู่ในระยะยาว โดยมุ่งเน้นที่การเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค และเมื่อทำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จะใช้ร่วมกับกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสร้างคุณลักษณะที่กำหนดสำหรับแบรนด์ที่ช่วยส่งเสริมการสนับสนุนและความภักดีต่อแบรนด์
หากนึกถึงความสะดวกสบาย ในปัจจุบันก็มักมีธุรกิจต่างๆ ถูกสร้างขึ้นมาตอบเพื่อโจทย์ความต้องการนี้ ไม่เว้นแต่ธุรกิจล้างรถอัตโนมัติที่ถูกคิดขึ้นให้สะดวกสบายที่สุด ซึ่งในประเทศไทยจะมีร้านล้างรถอัตโนมัติเจ้าดังเจ้าไหนบ้าง วันนี้เรานำมานำเสนอ 5 เจ้าดังด้วยกันค่ะ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย Quick wash (ควิกวอช) QuickWash (ควิกวอช) ร้านล้างรถอัตโนมัติ ล้างรถเร็วใน 7 นาที ราคาเริ่มต้น 89 บาท มีจุดเริ่มต้นในปี 2017 จากการที่เราเริ่มตั้งคำถามง่ายๆ ว่า “ทำไมการล้างรถมันถึงเป็นเรื่องยุ่งยากเหลือเกิน? ได้รับบริการไม่ค่อยมีมาตรฐาน ล้างสะอาดบ้างไม่สะอาดบ้าง แล้วก็ต้องรอนาน สุดท้ายกลับให้ความรู้สึกไม่คุ้มเลย” เราได้เล็งเห็นถึงปัญหานี้และอยากมีส่วนร่วมแก้ไข เราจึงได้พัฒนา Quick Wash ร้านล้างรถอัตโนมัติขึ้นมาเพื่อคนไทย โดยทำให้ “การล้างรถต้องไม่ใช่เรื่องยากและคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด” เครื่องล้างรถอัตโนมัติเป็นเครื่องล้างที่นำเข้ามาจากสเปน มีเทคโนโลยีรับรู้ลักษณะยานพาหนะและปรับระยะให้เข้ากับรถได้อย่างดีเยี่ยม โดยเราใช้น้ำยาล้างรถนำเข้าจากยุโรปมีจุดเด่นในเรื่องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของการประหยัดน้ำและพลังงาน ทำให้มั่นใจว่าได้ว่าจะได้รับบริการที่มีคุณภาพและมาตรฐาน นอกจากนี้ขนแปรงล้างรถผลิตจากวัสดุโฟม ฟูนุ่ม น้ำหนักเบา ไม่อมน้ำ เคลือบด้วยน้ำยาพิเศษ จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดร่องรอยต่างๆ หรือไม่เป็นอันตรายต่อสีรถแน่นอน ราคา : เริ่มต้นที่ 89 บาท เวลาเปิดบริการ : เปิดทุกวัน เวลา 08.00 น. – 20.00น. *รับรถคันสุดท้าย 19.30 น.* เบอร์โทร : 092-246-1255 ที่ตั้ง : https://web.quickwashthailand.com/th/contract J Wash Car care (เจ วอช ซิสเท็ม) J Wash เป็นร้านล้างรถอัตโนมัตที่ใช้เครื่องนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น และผลิตภัณฑ์อื่นๆ นำกก็เข้าจากประเทศญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน โดยในส่วนของเครื่องล้างอัตโนมัติสามารถควบคุมการทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ใช้งานง่าย สะอาด สะดวก รวดเร็ว ไม่ทำให้เกิดขนแมว ใช้เวลาเพียง 3 นาทีครึ่งต่อคันเท่านั้น ซึ่งจากการล้าง ด้วยชุดแปรงนวัตกรรมใหม่ ที่ทำจาก EVA ( เอทิลีน ไวนิล อซิเตรท ) ที่มีคุณสมบัติ บางเบา ไม่เก็บสิ่งสกปรกไว้บนพื้นผิวแปรง พร้อมด้วยน้ำยาทำความสะอาด นอกจากนี้ J Wash Carcare ยังให้บริการเสริมอื่นๆ เช่น การทำความสะอาดเครื่องยนต์ ซักเบาะ พรม อบโอโซน ขัดเคลือบสี และอื่นๆ พร้อมระบบสมาชิกที่ทันสมัย ในการให้บริการลูกค้าทุก ๆ สาขาด้วยมาตรฐานเดียวกัน ราคา : เริ่มต้นที่ 150 บาท เวลาเปิดบริการ : เปิดทุกวัน เวลา 07.30 น. - 19:30น. เบอร์โทร : 065-717-5078 ที่ตั้ง : https://www.google.com/maps/dir/13.8313728,100.5617152/13.723506,100.5370814/@13.7788422,100.5118597,13z/data=!3m1!4b1!4m4!4m3!1m1!4e1!1m0 Wizard Auto Care (วิซาร์ด ออโต้ แคร์) ธุรกิจร้านล้างรถอัตโนมัติที่ใช้เครื่องล้างรถอัตโนมัติแบบอุโมงค์ผ้า สะอาด รวดเร็ว ไร้รอย ทำงานโดยใช้เครื่องฉีดน้ำจากใต้ท่อรถ ทำความสะอาด ช่วงล่าง ด้วยแรงดันน้ำที่เหมาะสม ทำให้ ชะล้างเพียง คราบดินโคลน ฉีดโฟม ทำความความสะอาดสีรถ จากบนลง ล่าง ขั้นตอนการล้างรถด้วยผ้าล้างรถโดยเฉพาะของ WIZARD จึงไม่มีการเกาะติด ของทรายและฝุ่นที่จะทำให้รถเกิดรอยได้ WIZARD เป็นเจ้าเดียวที่มีการแยกใช้น้ำยาเฉพาะในการทำความสะอาดแม็กและคราบแมลง ฉีดคอนดิชั่นเนอร์แว๊ก ทั่วทั้งคันรถ เพื่อ เป็นฟิล์มบางๆป้องกันสีรถจากฝุ่นและแสงแดด ให้สีรถเงางามฝุ่นไมเกาะน้ำไม่เกาะสีรถ สีรถจึงดูเงางามสดใส สุดท้ายเป่าลมเพื่อเก็บน้ำตามขอบและตะเข็บเล็กๆในชิ้นส่วนที่ผ้าเข้าไปเช็ดไม่ถึง เพื่อป้องกันการเกิดสนิมและน้ำขัง ซึ่งในปัจจุบัน มีให้ร้านให้บริการถึง 40 สาขา ราคา : เริ่มต้นที่ 59 บาท เวลาเปิดบริการ : เปิดทุกวัน เวลา 7:00น. - 19:00น. เบอร์โทร : 02-538-8111 ที่ตั้ง : 210/4 ซ.ประดิษฐ์มนูญธรรม 10 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพ ฯ 10310 Quik car wash ธุรกิจล้างรถแบบอุโมงค์ล้างรถอัตโนมัติมาตราฐาน USA แบบไดร์ฟ-ทรู ลำเลียงรถผ่านสายพาน ใช้เวลาในการล้างเพียง 3 นาที ราคาเริ่มต้นที่ 99 บาท และมีบริการดูดฝุ่นได้ด้วยตัวเอง ทางร้านเองใช้ผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศทำให้มั่นใจได้ว่ามีคุณภาพแน่นอน ราคา : เริ่มต้นที่ 99 บาท เวลาเปิดบริการ : เปิดทุกวัน เวลา 8:00น. - 19:00น. เบอร์โทร : 081-399-4231 ที่ตั้ง : ถ.อ่างศิลา-บ้านเสม็ด ข้างปั๊มปตท. ติดถนนใหญ่ Google Map Location : https://goo.gl/maps/yiEJXFtQsT9eZv6H8 FIT Wash by W car wash FIT Wash by W Car Wash ร้านล้างรถอัตโนมัติด้วยระบบล้างอุโมงค์ผ้าไมโครไฟเบอร์ต่อเนื่อง ไม่ทำให้เกิดริ้วรอย ควบคุมด้วยระบบมาตราฐานเหนือระดับ (The Standard Over All System) ทำให้ล้างรถได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องลงจากรถเลย โดยราคาเริ่มต้นที่ 120 บาทเท่านั้น และนอกจากล้างรถแล้ว ยังมีบริการอื่นๆ พร้อมให้บริการอีก ไม่ว่าจะเป็นบริการเคลือบแก้ว เคลือบสี ดูดฝุ่น ล้างแอร์ เป็นต้น ราคา : เริ่มต้นที่ 120 บาท เวลาเปิดบริการ : เปิดทุกวัน 08.00 - 19.00 น. *รับรถคันสุดท้าย 18.30 น.* เบอร์โทร : 065-196-5333 ที่ตั้ง : อยู่ในปั๊มเอสโซ่ ถ.เทพารักษ์ กม.8 (ก่อนถึงซอยมังกร) Google Map Location : https://goo.gl/maps/GXBrDVWyVeGR7xRu7 เป็นอย่างไรกันบ้างคะจาก 5 ร้านที่กล่าวมามีร้านที่เคยไปใช้บริการกันมาบ้างแล้วคะ ใครไปใช้บริการกันมาแล้วก็มารีวิวกันได้นะคะ
หลายคนที่กำลังสนใจในรถ Ev (Electric Vehicle) อาจจะยังมีข้อสงสัยและตั้งคำถามในเรื่อง มาตรฐานความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าสำหรับ Ev วันนี้เราจึงนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับมาตรฐานการติดตั้งเครื่องชาร์ตรถ Ev ให้ได้มาตรฐานและปลอดภัยมานำเสนอให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ สามารถอ่านบทความประกอบความรู้เพิ่มเติมได้ที่ : รถยนต์ไฟฟ้า EV ต้องใช้ไฟบ้านแบบไหน? จ่ายค่าไฟเท่าไหร่? โดยการไฟฟ้านครหลวงได้มีข้อกำหนดทั่วไปประกาศไว้ดังนี้ ข้อกำหนดทั่วไป วงจรย่อยที่จ่ายไฟให้ EVSE จะต้องมีระบบป้องกันอันตรายต่อบุคคลดังต่อไปนี้ทุกข้อ ก) สายดิน และ ข) เครื่องตัดไฟรั่ว (RCD) ต้องเป็น type B พิกัด I∆n ≤ 30 mA ชนิดตัดกระแสไฟฟ้าสายที่มีกระแสไฟฟ้าทุกเส้นรวมถึงนิวทรัลออกพร้อมกัน และมีขนาดพิกัดกระแสไม่น้อยกว่าพิกัดของเครื่องป้องกันกระแสเกิน หมายเหตุ สามารถใช้ RCD type A หรือ F ร่วมกับอุปกรณ์ที่สามารถตัดวงจรจ่ายไฟหากมี กระแสลัดวงจรลงดินแบบกระแสตรง (d.c. fault current) เกิน 6 mA (RDC-DD) แทน RCD type B ได้ ตำแหน่งการติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่วสามารถติดตั้งได้ที่แผงวงจร ตำแหน่งก่อนเข้า EVSE หรือภายใน EVSE ได้ทั้งนี้กรณีโหมด 2 แนะนำให้ติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่วที่บริเวณแผงวงจร หรือก่อนเข้าเต้ารับ หากไม่มั่นใจว่า IC-CPD มีเครื่องตัดไฟรั่วที่เหมาะสมแล้วหรือไม่ RCD type B ต้องไม่ติดตั้งภายใต้วงจรที่มีRCD type อื่นอยู่ที่เมนของวงจรนั้น ๆ ข้อยกเว้น สามารถละเว้นการติดตั้ง RCD ได้ในกรณีที่ EVSE มีการแยกจากกันทางไฟฟ้า (Electrical separation) เช่น ใช้หม้อแปลงแยกวงจรหรือหม้อแปลงแยกขดลวด (Isolating transformer) 2. วงจรย่อยที่จ่ายไฟให้ EVSE ต้องแยกต่างหากจากการจ่ายไฟให้กับโหลดอื่น ๆ 3. วงจรย่อยแต่ละวงจรสามารถจ่ายไฟให้EVSE ได้ 1 ชุดเท่านั้น 4. สายไฟฟ้าของวงจรย่อยที่จ่ายไฟให้ EVSE ต้องมีขนาดพิกัดกระแสไม่ต่ำกว่า 1.25 เท่าของกระแสด้านไฟเข้า (Input) ของ EVSE และไม่ต่ำกว่าพิกัดกระแสของเครื่องป้องกันกระแสเกิน 5. กำหนดให้ใช้ค่า Demand factor เท่ากับ 1 สำหรับโหลด EVSE ในการคำนวณหาขนาดสายป้อนและสายเมน ยกเว้นมีระบบควบคุม Demand แต่ทั้งนี้วงจรย่อยที่จ่ายไฟให้ EVSE ต้องมี Demand Factor เท่ากับ 1 6. แต่ละ EVSE ต้องมีเครื่องป้องกันกระแสเกินพิกัดกระแสไม่ต่ำกว่าพิกัดกระแสด้านไฟเข้า (Input) ของ EVSE และหากเป็นการอัดประจุไฟฟ้าโหมด 2 เครื่องป้องกันกระแสเกินต้องมีพิกัดกระแสไม่เกินขนาดพิกัดกระแสของเต้ารับ MPESTD-001:2563 7. ตำแหน่งติดตั้งเต้ารับโหมด 2 หรือโหมด 3 (กรณีมีเต้ารับ) แนะนำให้อยู่สูงจากพื้นผิวการจอดของยานยนต์ (Parking surface) ไม่น้อยกว่า 0.75 เมตร แต่ไม่เกิน 1.2 เมตร 8. กรณีติดตั้ง EVSE ภายนอกอาคาร วิธีการเดินสายไฟฟ้าวงจรย่อยกำหนดให้ใช้วิธีร้อยท่อฝังดิน หรือร้อยท่อเกาะผนังเท่านั้น 9. การใช้ตัวคูณปรับค่าขนาดกระแสสำหรับคำนวณพิกัดกระแส 9.1 กรณีเดินสายไฟฟ้าในช่องเดินสาย ให้ใช้ตัวคูณปรับค่าขนาดกระแสตามมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย พ.ศ. 2556 ตารางที่ 5-8 ทุกกรณีรวมทั้งรางเดินสาย (Wireway) 9.2 กรณีเดินสายเกาะผนัง ให้คำนวณพิกัดกระแสโดยใช้ตัวคูณปรับค่าขนาดกระแสตามตารางที่ 1 ตารางที่ 1 ตัวคูณปรับค่าขนาดกระแสกรณีเดินสายเกาะผนัง จำนวนวงจร 2 3 4 5 6 7 8 9-20 ตัวคูณปรับค่า 0.85 0.79 0.75 0.73 0.72 0.72 0.71 0.70 10. ในบริเวณที่อยู่ต่ำกว่าระดับผิวดิน และในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อน้ าท่วมถึง ควรมีมาตรการหรือระบบป้องกันน้ำท่วม 11. เครื่องตัดไฟรั่ว ต้องมีปุ่มทดสอบการทำงาน (Test button) และกำหนดให้มีระยะเวลาการตรวจสอบการทำงานของเครื่องตัดไฟรั่วทุกระยะ 6 เดือน มาตรฐานการติดตั้งสายเมนวงจรที่สอง สำหรับ EV Charger เป็นรูปแบบทางเลือก ป้ายบริเวณ Main CB 1.ป้ายที่ติดตั้งบริเวณ Main CB วงจร EVอาคารนี้มีสายเมน 2 วงจร Main CB วงจรโหลดทั่วไปอยู่ที่ชั้น 2 และ 2.ป้ายที่ติดตั้งบริเวณ Main CB วงจรโหลดทั่วไป อาคารนี้มีสายเมน 2 วงจร Main CB วงจร EV อยู่ที่โรงจอดรถ อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้ารั่ว (RCD) ต้องเป็นแบบ type B หรือเทียบเท่า พิกัด lΔn < 30 mA (หากเครื่องชาร์จติดตั้ง RCD แบบ type B หรือเทียบเท่าอยู่ภายในแล้ว ไม่ต้องติดตั้งเพิ่ม) มิเตอร์ที่ขอเพิ่มขนาดจากการไฟฟ้านครหลวง และมีข้อกำหนด ดังนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) จึงอนุโลมให้ผู้ใช้ไฟฟ้าเดิมที่มีการขอติดตั้ง EV Charger เพิ่มจากโหลดการใช้ไฟฟ้าเดิมและมีการขอเพิ่มขนาดมิเตอร์ สามารถติดตั้งสายเมนวงจรที่สองสำหรับ EV Charger โดยเฉพาะได้ พิกัดกระแสไฟฟ้าของ Main CB รวมทั้งสองวงจร ต้องไม่เกินพิกัดสูงสุดของเครื่องป้องกันกระแสเกินตามขนาดมิเตอร์ที่ระบุในตารางที่ 3-4 ของมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย เช่น มิเตอร์ที่ขอเพิ่มขนาดเป็น 30 (100) A ค่าพิกัดกระแสของ Main CB รวมทั้งสองวงจรต้องไม่เกิน 100 A ผู้ขอใช้ไฟฟ้าต้องมีการติดตั้งป้ายถาวรบริเวณ Main CB ของทั้งสองวงจรเมน เพื่อระบุตำแหน่งของ Main CB ของอีกวงจรเมนหนึ่ง ห้ามต่อสายเฟส หรือสายนิวทรัลข้ามระหว่าง 2 วงจรในส่วนของผู้ใช้ไฟฟ้า มาตรฐานการติดตั้งเต้ารับสำหรับสายชาร์จแบบพกพา (EV- Socket-Outlet) มีข้อกำหนด ดังนี้ อุปกรณ์ป้องกันไฟรั่ว (RCD) ต้องเป็นแบบ type B หรือเทียบเท่า พิกัด lΔn < 30 mA (หากสายชาร์จแบบพกพา (IC-CPD) ติดตั้ง RCD แบบ type B หรือเทียบเท่าอยู่ภายในแล้ว ไม่ต้องติดตั้งเพิ่ม) เต้ารับ (EV Socket-Outlet) สำหรับเสียบสายชาร์จเป็นชนิด 3 รู (มีสายต่อลงดิน) ต้องทนต่อกระแสไฟฟ้าได้ต่อเนื่อง ไม่ร้อยกว่า 16 A ตาม มอก.166-2549 (หรืออาจเป็นเต้าสำหรับอุตสาหกรรม) การต่อสายต่อหลักดินวงจรชาร์จ EV ติดตั้งสายต่อหลักดินเป็นแบบแยกจากหลักดินของบ้าน (TT) หลักดินมาตรฐาน ขนาด Ø16 มม. ยาว 2.40 เมตร การต่อสายหลักดินเข้ากับหลักดิน ต้องต่อเชื่อมด้วยความร้อน ตู้ควบคุมไฟฟ้า (MDB) ภายในตู้ จะต้องมีช่องว่างสำหรับติดตั้ง Miniature Circuit Breaker, 1P ขนาด 16 A Main Circuit Breaker (MCB) มีขนาดสูงสุด ไม่เกิน 100 A สำหรับมิเตอร์ขนาด 30(100)A ข้อควรระวังสำหรับการชาร์จรถยนไฟฟ้าด้วยสายชาร์จแบบพกพา ห้ามนำสายชาร์จแบบพกพา ไปต่อกับเต้ารับเดิมที่มีอยู่แล้วในบ้าน เนื่องจากระบบไฟฟ้าเดิมไม่ได้ออกแบบมารองรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ต้องเดินวงจรไฟฟ้า สำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแยกต่างหากโดยช่างผู้ชำนาญ มาตรฐานการติดตั้งเครื่องชาร์จแบบติดผนัง (Wall Mounted Charger) มีข้อกำหนด ดังนี้ อุปกรณ์ป้องกันไฟรั่ว (RCD) ต้องเป็นแบบ type B หรือเทียบเท่า พิกัด lΔn < 30 mA (หากเครื่องชาร์จติดตั้ง RCD แบบ type B หรือเทียบเท่าอยู่ภายในแล้ว ไม่ต้องติดตั้งเพิ่ม) เครื่องชาร์จแบบติดผนัง (Wall Mounted Charger) เครื่องชาร์จควรเป็นไปตามมาตรฐาน มอก.61851 หรือ IEC 61851 การต่อสายต่อหลักดินวงจรชาร์จ EV ติดตั้งสายต่อหลักดินเป็นแบบแยกจากหลักดินของบ้าน (TT) หลักดินมาตรฐาน ขนาด Ø16 มม. ยาว 2.40 เมตร การต่อสายหลักดินเข้ากับหลักดิน ต้องต่อเชื่อมด้วยความร้อน ตู้ควบคุมไฟฟ้า (MDB) ภายในตู้ จะต้องมีช่องว่างสำหรับติดตั้ง Miniature Circuit Breaker, 1P มีขนาดตามพิกัดกระแสไฟฟ้าของเครื่องชาร์จ Main Circuit Breaker (MCB) มีขนาดสูงสุด ไม่เกิน 100 A สำหรับมิเตอร์ขนาด 30(100)A ข้อควรระวัง สำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเครื่องชาร์จ เนื่องจากเครื่องชาร์จเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีพิกัดกระแสไฟฟ้าสูง ดังนั้นก่อนติดตั้งเครื่องชาร์จให้พิจารณาโหลดการใช้ไฟฟ้าเดิมของบ้านและเครื่องชาร์จ หากรวมกันแล้วเกินกว่าพิกัดกระแสไฟฟ้าของ MCB และขนาดมิเตอร์ ให้ทำการปรับปรุงระบบไฟฟ้าและติดต่อ การไฟฟ้านครหลวง เพื่อขอเพิ่มขนาดมิเตอร์ ต้องเดินวงจรไฟฟ้าสำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแยกต่างหากโดยช่างผู้ชำนาญ ขอบคุณข้อมูลจาก : การไฟฟ้านครหลวง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาธุรกิจร้านค้าออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะคนหันมาช็อปปิ้ง ออนไลน์ (Shoping Online ) กันเป็นอย่างมาก เพราะทั้งสะดวกสบาย ไม่ต้องออกไปข้างนอก เพียงสั่งผ่านแอปพลิเคชั่นจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชั่นของธนาคารและรอให้การขนส่งซึ่งเป็นธุรกิจที่เติบโตมาคู่กัน นำของมาส่งถึงที่บ้านเพียงไม่กี่วันเท่านี้ก็ได้ของที่เราต้องการแล้ว Shoping Online คือ การซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์หรือทางการที่เราจะเรียกว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือการซื้อขายกันโดยที่มีอินเตอร์เน็ตเป็นตัวกลาง โดยเราเพียงมีโทรศัพท์เพียงเครื่องเดียวก็สามารถช็อปปิ้งออนไลน์ได้ง่ายๆ แล้ว เมื่อการซื้อขายผ่านออนไลน์เป็นที่นิยมทำให้ต้องมีแอปพลิเคชั่นที่รองรับการช็อปปิ้งนี้ ซึ่งแอปพลิเคชั่นจะเปรียบเหมือนห้างสรรพสินค้าที่ได้รวมรวมร้านค้าต่างๆ มากมายมาไว้ที่เดียว ซึ่งจะมีแอปพลิเคชั่นใดบ้าง มาอ่านกันเลย Lazada แอปพลิเคชั่นที่เป็นที่รู้จักอย่างมากในไทย โดยแอปเป็นที่คนนิยมจากการที่คนเข้ามาช็อปปิ้งออนไลน์เพราะภายในแอปใช้งานง่าย มีประเภทของสินค้าให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ กล้อง เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ของตกแต่งบ้าน ประดับยนต์ ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเด็ก กีฬา หนังสือ และอุปกรณ์เดินทาง ซึ่งราคาก็อยู่ในระดับที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย มีวิธีการชำระเงินให้เลือกหลายรูปแบบเช่น การจ่ายเงินสด บัตรเดบิต/เครดิต หรือ Wallet Shopee แอปพลิเคชั่นยอดนิยมในไทยอีกหนึ่งแอพ ที่ไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแอพ Shopee แหล่งรวมสินค้ามากมายหลากหลายรายการ ซึ่งภายในแอพมีผู้ประกาอบการร้านค้าเข้าร่วมมากถึง 4 ล้านคน นี่จึงเป็นสาเหตุที่สิ้นคามีความหลากหลายเป็นอย่างมาก การออกแบบแอปพลิเคชั่นให้ใช้งานได้ง่าย รองรับการใช้งานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินได้หลายตัวเลือกทั้งแบบจ่ายด้วยเงินสด บัตรเดบิต/เครดิต Wallet รวมถึงมีการผ่อนชำระ และที่สำคัญแอปพลิเคชั่นนี้มีการแจกโค้ดส่วนลดเยอะมากๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของแอปพลิเคชั่นนี้เลย JD Central มากันที่อีกหนึ่งแอปพลิเคชั่นชื่อดังอย่าง JD Central เป็นอีกแอปพลิเคชั่นที่มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก สุขภาพและความงาม กีฬา การท่องเที่ยว เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้ในบ้าน ของตกแต่งบ้าน ตลอดจนแฟชั่นผู้ชายและผู้หญิง อย่างเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และเครื่องประดับ ขั้นตอนการซื้อก็ง่ายไม่ยุ่งยากทั้งยังมีการจัดส่งที่รวดเร็วอีกด้วย Kaidee สำหรับแอปช้อปปิ้งต่อมา เป็นแอปสำหรับขายของมือ 2 ที่ใครหลาย ๆ คนน่าจะพอรู้จักหรือได้ยินชื่อกันมาบ้างแล้ว อย่างเว็บ ขายดี ที่ยินดีเปิดรับให้ทุก ๆ คนได้เป็นพ่อค้าแม่ค้านำของมือ 2 ของตนเองมาขาย ดังนั้นช่วงโควิดนี้ ใครที่กำลังว่าง ๆ ไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน ก็สามารถโล๊ะของที่ไม่ได้ใช้แล้วมาขายในแอปได้เลย ส่วนใครที่อยากได้ของชิ้นไหน แต่ยังไม่มีงบพอที่จะซื้อของมือหนึ่ง แอปขายดีแอปนี้ก็ได้รวบรวมของมือ 2 ราคาถูก คุณภาพดี ไว้ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกแล้ว 7 Deliverly เป็นแอปช้อปปิ้งแบบส่งด่วนภายใน 30 นาที สามารถซื้อของภายในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ได้ง่ายๆ ในแอปนี้ ซึ่งตอนนี้ทางร้านได้มีบริการส่งฟรีให้ของถึงมือลูกค้า เพียงซื้อของขั้นต่ำ 100 บาท เท่านี้ก็สามารถรอรับสินค้าที่บ้านได้เลย Line shop แหล่งช็อปปิ้งออนไลน์ ที่ไม่เพียงแต่ขาช็อปจะเข้ามาซื้อสินค้าเท่านั้น แต่ยังเปิดพื้นที่ให้ผู้ขาย สามารถสร้างร้านค้าออนไลน์ได้เองผ่านทางมือถือ ภายใต้เงื่อนไขของบริษัท line corporate ซึ่งสามารถทำการซื้อขายชำระเงินได้ง่ายๆ โดยที่เรามีเพียงแค่แอปพลิเคชั่น Line เพียงอย่างเดียวก็สามารถทำรายการได้แล้ว SHEIN แอปพลิเคชั่นนี้จะเน้นหนักไปที่เสื้อผ้าและเครื่องประดับ โดยแอป Shein ซึ่งเป็นแอปสินค้าแฟชั่นจากประเทศจีนที่ได้มาเปิดให้บริการในประเทศไทย เหมาะสำหรับสายแฟนชั่นที่ชอบซื้อเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หรือเครื่องประดับ มีสินค้าให้เลือกมากมาย โดยความโดดเด่นของแอปนี้นั้นเป็นเรื่องของการช่วยเหลือในการเลือกขนาดเสื้อผ้าให้เข้ากับความต้องการของผู้ใช้งานจะมีแบบสอบถามสัดส่วนของผู้ใช้งาน รวมไปถึงสอบถามว่าผู้ใช้งานใส่เสื้อผ้าจากแบรนด์ต่าง ๆ ด้วยไซส์อะไรบ้าง ตลอดจนชอบใส่เสื้อผ้าที่มีลักษณะใด ไม่ว่าจะเป็นรัดรูป พอดีตัว หรือโอเวอร์ไซส์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ซื้อสามารถเลือกเสื้อผ้าได้ตรงกับความต้องการและสัดส่วนได้มากขึ้น ทำให้ Shein มีตัวเลือกไซส์ให้เลือกมากมายตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้า Konvy แอปพลิเคชั่นสุดท้ายที่เราหยิบยกมาในวันนี้คือ แอปพลิเคชั่นช็อปปิ้งออนไลน์ที่ขายผลิตภัณฑ์เพื่อความงามโดยเฉพาะไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง อุปกรณ์แต่งหน้า ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ รวมไปถึงอาหารเสริม เพียงแค่คุณเข้าใช้งานแอปพลิชั่น Konvy เพียงแอปเดียวก็จะได้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความสวยงามแบบครบครันกันเลย ในช่วงเวลาในหลายปีที่ผ่านมานี้ธุรกิจด้านออนไลน์มีการเติบโตเป็นอย่างมาก และมีโอกาสเติบโตพัฒนาให้ดีขึ้นไปอีก ไม่เพียงแต่แอปพลิเคชั่นช็อปปิ้งออนไลน์จะเติบโตเพียงอย่างเดียว ในหลายธุรกิจเองก็ปรับตัวให้เข้ากับสังคมออนไลน์มากขึ้นเช่นเดียวกัน
เครื่องล้างรถอัตโนมัติเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้เข้ากับสังคมยุคสมัยใหม่ เพราะเป็นสิ่งที่สะดวกทั้งในด้านผู้ให้บริการ หรือด้านของลูกค้าผู้ใช้บริการก็ทั้งสะดวกและประหยัดขึ้น หากจะพูดถึงเครื่องล้างรถอัตโนมัติ ทุกคนเคยสงสัยกันไหมว่ามีจุดเริ่มต้นมาจากอะไร ตั้งแต่ตอนไหน และตอนนี้เครื่องรถอัตโนมัติมีเทคโลโลยีอะไรที่ตอบโจทย์เพิ่มมากขึ้นบ้างแล้ว ในสมัยก่อนการล้างรถอัตโนมัติยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก มีเพียงการล้างด้วยตัวเองหรือเข้าใช้บริการร้านคาร์แคร์ที่มีพนักงานให้บริการเท่านั่น ซึ่งก็มีการเกิดปัญหาเช่น เกิดปัญหารอนาน ราคาค่าใช้จ่ายสูง ของหาย เป็นต้น เครื่องล้างรถอัตโนมัติจึงเข้ามาแก้ปัญหาเหล่านี้ เครื่องล้างรถอัตโนมัติ เครื่องล้างรถอัตโนมัติที่เรานำมานำเสนอในวันนี้มี 2 รูปแบบ คือ 1.แบบอุโมงค์ล้างรถอัตโนมัติ รูปแบบอุโมงค์ล้างรถอัตโนมัติ เปรียบเหมือนเป็นหุ่นยนต์ขนาดใหญ่โดยมีโครงสร้าง และสายพานลำเลียงที่แข็งแรงเพื่อเคลื่อนย้ายยานพาหนะน้ำหนักมากกว่า 30 ตัน เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง และแปรงปัดช่วยให้มันทำความสะอาดรถได้อย่างทั่วถึง การล้างรถอัตโนมัติเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1951 ในเมืองซีแอทเทิล รัฐวอชิงตัน และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อุตสาหกรรม และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องได้พัฒนาขึ้นอย่างมาก อุโมงค์ล้างรถที่ทันสมัย ประกอบด้วยชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวได้หลายพันชิ้น น้ำยาล้างหลากชนิด และแวกซ์ พร้อมเครื่องควบคุมอัตโนมัติ เซนเซอร์ และเครื่องวัดเพื่อการทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพ โดยไม่สร้างความเสียหาย การล้างรถที่มีประสิทธิภาพสามารถกำจัดซากแมลง ขี้นก และไขมันที่เกาะบนผิวรถออกได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ขั้นตอนจะเริ่มต้นด้วยการฉีดน้ำ ซึ่งโดยปกติจะมีความเป็นด่างอ่อน แล้วจึงล้างด้วยแชมพู ตามมาด้วยการเพิ่มน้ำยาโฟม เพื่อการทำความสะอาดได้อย่างหมดจด ส่วนหลักประกอบด้วยแปรง 2-5 ชิ้น ที่เรียกว่า ตัวขัด และมีแปรงปัดวางในแนวนอนเพื่อทำความสะอาดหลังคารถ มีการเพิ่มแวกซ์เพื่อรักษาสีรถ ป้องกันรอยขีดข่วน และรังสียูวี ตัวโครง และแปรง ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮดรอลิค และควบคุมการทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ บางขั้นตอนจะมีการตั้งโปรแกรมล่วงหน้า เช่น การเพิ่มความเร็วของแปรงปัดเมื่อผ่านด้านหน้าของรถ เนื่องจากเป็นที่รวบรวมสิ่งสกปรกมากที่สุด การล้างรถส่วนอื่นๆ ก็อาศัยเซนเซอร์ และการตอบสนอง เช่น ระบบโฟโทอีเลคทริค ที่มีหน้าที่จับตำแหน่ง และตรวจจับรูปร่าง ขั้นตอนสุดท้าย คือ ทำให้แห้ง ข้อมูลในคอมพิวเตอร์จะเคลื่อนไหวตามการเคลื่อนไหวของแปรงที่จดจำไว้จากขั้นตอนก่อนหน้านี้ ด้านในของเครื่อง สายพานลำเลียงที่ซับซ้อนของเครื่องล้างรถอัตโนมัติ ใช้อะไรล้าง ที่จุดเริ่มต้น ลูกค้าสามารถเลือกโปรแกรมการล้างได้ สายพาน จากนั้นลูกค้าขับรถเข้าอุโมงค์ ซึ่งสายพานลำเลียงจะดึงและยึดล้อหน้าซ้ายเอาไว้ โฟม ที่จุดเริ่มต้นของอุโมงค์ หัวฉีดแบบ 2 ทิศทางจะฉีดพ่นโฟมที่ใช้สำหรับขจัดคราบน้ำมัน ล้างน้ำครั้งแรก หัวฉีดถัดไปจะฉีดน้ำสะอาด เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและเศษหินจากสีรถ ทำความสะอาดล้อ ใช้สารเคมีโดยเฉพาะสำหรับขจัดคราบฝุ่นที่มาจากเบรค ล้อ และยาง ทำความสะอาดใต้รถ ใช้หัวฉีดที่ติดตั้งอยู่ที่พื้นอุโมงค์ทำความสะอาดใต้ท้องรถ แปรง แปรงปัดรถยนต์จะใช้เซนเซอร์ที่ใกล้กับตัวรถ เพื่อให้แน่ใจว่าได้ปัดลงบนพื้นผิวของรถอย่างพอดี ลงแวกซ์ อีกประตูหนึ่งจะฉีดพ่นรถด้วยแวกซ์เพื่อให้ตัวรถมีความเงางาม ทำให้แห้ง เครื่องเป่าขนาดใหญ่จะเป่าอากาศร้อนเพื่อทำให้รถแห้ง บางครั้งมีผ้าม่านแนวตั้งเพื่อทำให้รถแห้ง 1. เซนเซอร์ในเครื่องล้างรถจะตรวจจับรูปร่าง ตำแหน่งของรถ และหมุนแปรงปัดไปรอบๆ 2. โฟมล้างรถ และการหมุนแปรงปัดด้วยความเร็วสูงจะช่วยให้รถสะอาดเอี่ยมก่อนออกไปจากอุโมงค์ 3. ระบบการล้างแบบไร้สัมผัสมีแนวโน้มว่าจะเร็วกว่าการล้างแบบเข้าอุโมงค์อัตโนมัติ 4. การผสมผสานระหว่างแชมพู กับน้ำแรงดันสูง และการเสียดสีของแปรงปัดช่วยให้ทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง 2.ล้างรถแบบจอดรถอยู่กับที่ เครื่องล้างจะทำงานโดยการหมุนรอบรถ ในรูปแบบนี้ถือว่าหนึ่งในความก้าวหน้าล่าสุดของอุตสาหกรรมล้างรถอัตโนมัติ คือ ระบบการล้างรถโดยปราศจากการสัมผัส ระบบล้างแบบนี้จะหมุนหัวฉีดไปรอบๆ รถ โดยปราศจากการทำความสะอาดด้วยแปรงหรือผ้า ขั้นตอนเริ่มจาก ฉีดน้ำแรงดันต่ำให้รถเปียก ก่อนจะลงแชมพูที่ผลิตขึ้นมาพิเศษสำหรับการล้างรถ หลังจากนั้นแปรงล้างรถจะททำการหมุนสะบัดรอบตัวรถ เพื่อเป็นการขจัดคราบความสกปรกต่างๆ ออก จากนั้นฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อล้างแชมพูออก ลงแวกซ์และเป่าลมไล่คราบน้ำให้หมาด และในรูปแบบสุดท้ายนี้ หากพูดถึงร้านล้างรถอัตโนมัติแล้ว ก็คงจะต้องพูดถึงควิก ร้านล้างรถอัตโนมัติที่มีเครื่องล้าง เรามาลองดูสเป็คของเครื่องล้างอัตโนมัติของที่ร้านกันค่ะ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เครื่องล้างรถอัตโนมัติของควิกวอช เป็นเครื่องล้างอัตโนมัติ Istobal รุ่น M’Start ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ขั้นเทพด้วยการล้างระบบแรงดันสูง ทำความสะอาดล้ำลึกทุกซอกทุกมุมและยังมาพร้อมกับภาพลักษณ์สุดเท่ห์ล้ำสมัย เหมาะกับทุกธุรกิจ เช่น ร้านล้างรถในเมือง สถานีให้บริการน้ำมันหรือแก๊ส คอนโดหรู รองรับการล้างต่อเนื่องเพียงปุ่มสัมผัส ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ฉีกทุกการล้างรถแบบเดิมๆ โดยมีเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกมากมาย Controller ด้วยการทำงานที่ชาญฉลาดได้มาตรฐานและมีความยืดหยุ่นสูงของโปรแกรมโปรโตรคอล ที่ช่วยเพื่มประสิทธิภาพการสื่อสารของการทำงนเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพลดการเดินสายไฟและช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างคล่องตัว Command post หน้าจอโพสออกคำสั่งช่วยให้ทุกองค์ประกอบภายนอกของเครื่องทำงานเชื่อมต่อกัน มีทั้งแบบมาตราฐานและแบบหน้าจอสัมผัส FLEXIBILITY Configuration of programs สามารถเลือกปรับความกว้างและสูงได้เองตามใจชอบ โครงสร้างที่มั่นคงและขนาดกระทัดรัด มีให้เลือกถึง 4 ระดับ MECHANISM Brush tilt การล้างได้อย่างแม่นยำและสะอาดล้ำลึกด้วยตัวแปรงเอียง 10 องศาของด้านข้างแปรง PERFORMANCE High pressures เครื่องทำงานด้วยแรงดันสูงก่อนขั้นตอนการล้าง ทำให้ชำระล้างเอา สิ่งสกปรก ฝุ่นละออง คราบโคลน คราบดิน ออกจากตัวรถก่อนทำการลงแชมพู EFFECTIVE DRYING เครื่องเป่าลมในตัวด้วย ผนวกกับหัวฉีดเครื่องเป่าแนวนอนและเครื่องแสกน รถอัจริยะทำให้เป่าแห้งได้รวดเร็ว ให้ผลลัพธ์ที่เยี่ยมยอดมากขึ้น จำนวน 2 ตัว เพื่อความพอดีกับด้านบนของตัวเครื่องจะทำให้แห้งสนิทรวดเร็ว COMMUNICATIONS ตัวเครื่องล้างอัตโนมัตจะติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์ที่มี IW MANAGER การจัดการและควบคุมซอฟต์แวร์ของตัวเครื่อง สามารถใช้งานได้ทั้งจากตัวเครื่องและการเชื่อมต่อระยะไกล WHEEL WASH เพื่อการล้างรถที่สมบูรณ์แบบจำเป็นอย่างยิ่งต้องทำการล้างล้อและบังโคลน มีให้เลือกทั้งมีหรือไม่มีแรงดันสูง และตัวแปรงแบบเบนหรือเกลียว GLOSSY POLISH MIRROR สินค้าแนะนำสำหรับการเคลือบแว็กซ์แบบเงางามเสมือนกระจกเงา หลังจากการล้างรถแปรงจะทำหน้าที่นวดพื้นผิวรถให้ริ้วเงาอยู่ตลอดเวลา SPLASH SCREENS วัสดุคุณภาพสูง Perspex กับอลูมิเนียมเสริมด้วยการออกแบบที่สอดคล้องกับตัวเครื่องทีมีความปลอดภัยสูงทั้งยังปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นตัวเลือกแนะนำหลีกเสี่ยงน้ำกระเด็นหรือสาดในระหว่างการล้าง แปรงล้างนุ่ม ไร้ขนแมว ตัวแปรงทำจากวัสดุโฟม ฟูนุ่ม น้ำหนักเบา ไม่อมน้ำ เคลือบด้วยน้ำยาพิเศษที่ไม่ทำให้เกิดร่องรอยและไม่ทำห้เกิดอันตรายต่อสีรถเพิ่มความเงางามมากขึ้น เครื่องล้างรถอัตโนมัติได้ถูกสร้างและพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ที่ชอบความสะดวกสบาย พัฒนาให้เข้ากับทันยุคสมัยที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตามในอนาคตข้างหน้าเครื่องล้างรถอัตโนมัติอาจจะมีเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์และทันสมัยมากขึ้นกว่านี้ มารอดูการพัฒนาของเครื่องล้างรถอัตโนมัติในอนาคตไปพร้อมๆ กันนะคะ คลิก!! โหลด App Carmunity เพื่อสะสมแต้ม 👇🏻
หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินชื่อแอปบริการเรียกรถ Grab (แกร็บ) กันจนติดหู กับธุรกิจการขนส่งที่ในปัจจุบันได้หันมาทำโมเดล ‘ซูเปอร์แอป’ หรือแอปครอบจักรวาล ที่ในหลายธุรกิจอยากจะเป็นกัน วันนี้เรามาทำความรู้จักกับจุดเริ่มต้นของแอปพลิเคชั่นชื่อดังพร้อมทั้งบริการต่างๆ ที่ตอบโจทย์การเป็นซุปเปอร์แอปอันดับต้นๆ ในไทย Grab (แกร็บ) คือ แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือที่ให้บริการเรียกรถแท็กซี่ รถยนต์ส่วนบุคคล และ รถมอเตอร์ไซค์ ทั้งในส่วนของมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และการขนส่งสิ่งของหรือเอกสาร โดยมีจุดมุ่งหมายในการอำนวยความสะดวก และเพิ่มความปลอดภัยด้านการเดินทางให้กับผู้คนในกรุงเทพและจังหวัดใหญ่ๆ ของประเทศไทย ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ Andriod และ iOS จุดเริ่มต้นของ Grab นั้น ถูกก่อตั้งขึ้นโดย แอนโทนี่ ตันและ โฮย หลิง ตัน โดยทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมชั้นกันที่ Harvard Business School ต้นเหตุของปัญหาที่พวกเขาสองคนเจอคือ การเรียกแท็กซี่ที่มาเลเซียนั้นยากแสนยาก เขาจึงกลับไปคิดกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่สามารถใช้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในการแก้ปัญหานี้ ทั้งคู่จึงเขียนแนวคิด และพัฒนามันจนกลายเป็นแผนธุรกิจในเวลาต่อมา ซึ่งต่อมาถูกนำไปใช้ในการประกวด Business Plan Competition ที่มหาวิทยาลัย โดยได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 2 ในปี 2011 หลังจากนั้น ทั้งคู่เริ่มหาเงินทุน โดยใช้วิธีเดินเข้าไปเสนอแผนธุรกิจดังกล่าวให้แก่บริษัทที่ให้บริการจัดหารถแท็กซี่จำนวนมาก แต่มีเพียงแค่ 5 บริษัทกับจำนวนแท็กซี่แค่ 30 คันที่สนับสนุนแนวคิดของเขา อย่างไรก็ตาม ในระยะเวลา 12 เดือนต่อมา ทั้งคู่ได้เงินสนับสนุนกว่า 3,000 ล้านบาท จากกองทุนเฮดฟันด์ที่ขื่อว่า Vertex Venture Holdings ทำให้บริษัทเริ่มเติบโตและมีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง จนในปี 2013 Grab เปิดตัวในฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบัน Grab ประเทศไทยมี นายธรินทร์ ธนียวัน เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ทำไมต้อง โมเดล ‘ซูเปอร์แอป’ Super App มีอีกชื่อเรียกหนึ่ง คือ Everyday App ซึ่งหมายถึงแอปพลิเคชั่นที่ครอบคลุมทุกบริการ รวมทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกัน มีฟีเจอร์มากมายที่สามารถทำกิจกรรมได้หลายอย่างภายในแอปเดียว โดยไม่ต้องออกจากแอปไปใช้บริการแอปฯอื่น เช่น จ่ายบิล ซื้อของ สั่งอาหาร และมีความต้องการให้ผู้ใช้งาน log-in เข้ามาเพื่อใช้งานเป็นประจำทุกวัน ซึ่งบรรดาผู้พัฒนาแอปฯ ต่างพยายามพัฒนาเพื่อเปลี่ยนจากแอปธรรมดาให้กลายเป็น “Super app” บริการของแกร็บมีอะไรบ้าง ?? ซึ่งในปัจจุบันนี้ Grab มีบริการที่ตอบโจทย์การเป็นซูเปอร์แอปด้วยกันทั้งหมด 10 บริการ ได้แก่ 1.แกร็บคาร์ (Grab Car) การให้บริการเรียกรถส่วนบุคคลที่จะส่งมอบความสะดวกสบายและปลอดภัยให้ทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ที่มียานพาหนะส่วนตัว สามารถมีรายได้เสริมในเวลาว่าง และมีส่วนช่วยแบ่งเบาปัญหาการจราจรของประเทศโดยมอบทางเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย และลดจำนวนรถบนท้องถนน 2.แกร็บไบค์วิน (GrabBike Win) การให้บริการเรียกรถจักรยานยนต์รับส่งผู้โดยสารแบบทันที ซึ่งจะสามารถทราบอัตราค่าบริการที่แน่นอนก่อนใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน พร้อมรับใบเสร็จผ่านอีเมลที่ใช้สมัคร ปัจจุบัน แกร็บไบค์ (วิน) เปิดให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ บุรีรัมย์ และ เชียงใหม่ 3.จัสท์แกร็บ (Just Grab) การให้บริการที่รวบรวมรถจากแกร็บแท็กซี่ (GrabTaxi) และแกร็บคาร์ (GrabCar) ไว้ในบริการเดียว เพื่อโอกาสในการเรียกรถให้มารับได้ไวขึ้น พร้อมอัตราค่าโดยสารที่โปร่งใส ซึ่งแสดงไว้ในแอปพลิเคชันก่อนยืนยันการจองรถ หมายเหตุ : เฉพาะแกร็บแท็กซี่ที่ผ่านคุณสมบัติเท่านั้น ที่สามารถให้บริการ จัสท์แกร็บ 4.แกร็บแท็กซี่ (Grab Taxi) การให้บริการเรียกรถแท็กซี่สำหรับผู้โดยสารผ่านแอปพลิเคชันแกร็บ โดยแกร็บแท็กซี่เปิดให้บริการภายใต้วิสัยทัศน์ของแกร็บในการที่จะพัฒนาการบริการโดยสารรถแท็กซี่ เพื่อการเดินทางที่ปลอดภัยและสะดวกมากขึ้น รวมถึงเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตในการทำงานและรายได้ของผู้ขับขี่แท็กซี่ในประเทศไทย 5.แกร็บต่างจังหวัด นอกเหนือจากการให้บริการในกรุงเทพฯ และปริมณฑลแล้ว แกร็บยังให้บริการเรียกรถอีกหลายพื้นที่ในประเทศไทย และยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการเดินทางสำหรับคนไทยทุกคน 6.แกร็บฟู๊ด (Grab Food) การให้บริการเรียกรถรับส่งอาหารแบบทันทีเมื่อเรียกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน โดยจะสามารถทราบค่าอาหาร และ ค่าบริการจัดส่งที่แน่นอนก่อนใช้บริการ พร้อมรับใบเสร็จผ่านอีเมลที่ใช้สมัคร 7.GrabMart บริการรับส่งสินค้าถึงที่ โดยพาร์ทเนอร์รับซื้อของจากร้านค้าต่างๆ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ทั้งนี้ พาร์ทเนอร์จำเป็นต้องส่งสินค้าให้ถึงมือผู้รับ และผู้ใช้บริการต้องชำระเงินสดที่ปลายทางเท่านั้น 8.แกร็บเอ็กซ์เพรส (GrabExpress) การให้บริการเรียกรถเพื่อรับส่งพัสดุหรือเอกสารถึงที่ ผู้ขับขี่อุ่นใจได้ด้วยระบบจัดเก็บหลักฐานการรับและส่งของที่ถ่ายพัสดุโดยผู้ขับขี่ เพื่อเป็นการยืนยันถึงสภาพของพัสดุก่อนและหลังการจัดส่ง เปิดให้บริการแล้วกว่า 30เมืองทั่วประเทศ อาทิ กรุงเทพฯและปริมณทล นครปฐม เชียงใหม่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ขอนแก่น สงขลา-หาดใหญ่ ภูเก็ต ชลบุรี ระยอง จันทบุรี เป็นต้น และมีการเปิดพื้นที่ให้บริการใหม่ทุกเดือน นอกจากนี้บริการเรียกรถเพื่อรับส่งพัสดุหรือเอกสารมีรถให้บริการ 3 ประเภท ได้แก่ รถจักรยานยนต์ รถยนต์ (5 ประตู) และรถกระบะ อีกทั้งยังมีบริการเรียกรถเพื่อรับส่งพัสดุที่ตอบโจทย์การส่งของรูปแบบใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา บริการเรียกรถเพื่อรับส่งพัสดุ (GrabExpress) บริการเรียกรถเพื่อรับส่งพัสดุหลายจุดส่ง (GrabExpress Multi Stop) บริการเรียกรถเพื่อรับส่งอาหารจากร้านอาหาร (GrabExpress Food) บริการรับฝากซื้อสินค้า (GrabAssistant) 9.GrabNetwork สร้างรายได้ตามต้องการ ไร้ขีดจำกัดเรื่องสถานที่และเวลา เป็นครอบครัวแกร็บแบบไม่จำเป็นต้องขับรถ ตัวแทนรับสมัครผู้ขับขี่แกร็บที่กระจายอยู่ทั่วทุกหัวมุมในกรุงเทพฯ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้สนใจสมัครขับแกร็บ เพียงเข้าใจและสามารถใช้แอปฯ Grab Driver ก็รับโนนัสได้ง่าย ๆ 10.Grab Rentals แกร็บมีบริการช่วยจัดหารถเช่ารายวันในราคาประหยัด สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ของแกร็บแต่ไม่มีรถยนต์เป็นของตนเอง โดยมีระยะเวลาสัญญาเช่าเริ่มต้นขั้นต่ำ 3 เดือน ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่มีรถยนต์เป็นของตัวเอง สามารถมีอาชีพที่สร้างรายได้ให้ตนเองได้อย่างคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ต้องการมีรายได้เสริมหรือผู้ที่กำลังหาอาชีพอิสระ นับว่าแอปพลิเคชั่นที่มีจุดเริ่มต้นมาจากแก้ปัญของคนสองคน ซึ่งมีการเติบโตทางธุรกิจอย่างรวดเร็ว และในปัจจุบัน Grab เองก็ยังไม่หยุดพัฒนาเพื่อการบริการที่ครบวงจรตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าในภูมิภาคเอเชียให้มากขึ้น