E-mail : Quickwashthailand@gmail.com Tel : 092-281-2771

ไขความลับ BMW รถยุโรปสุดหรูหรา แบรนด์ที่อยู่มานาน 100 กว่าปี

หากพูดถึงแบรนด์รถยนต์ทรงสปอร์ตดีไซน์สุดหรูหรา ที่คนทั่วโลกชื่นชอบและโปรดปราน คงมีชื่อของ BMW แล่นเข้ามาในหัวเป็นชื่อแรกๆ แน่นอน บทความนี้จะมาเปิดตำนานความเก๋าของรถยนต์เชื้อสายเยอรมันแบรนด์นี้ว่า.. เพราะเหตุใด BMW ถึงไม่เคยหายไปจากท้องถนน แถมยังเพิ่มดีกรีความหรูหราและมูลค่าขึ้นทุกปี จนเป็นที่ต้องการอย่างมากในวงการของเหล่านักสะสม หากคุณเป็น Bimmer ตัวยง มาเช็กลิสต์ที่มาและความลับ ที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ไปทีละข้อกันเลย

 

ความเป็นมาของ BMW ที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้

กว่า BMW จะเป็น BMW แบรนด์รถยุโรปสุดหรู รถในฝันของใครหลายคน พวกเขาผ่านอะไรมาบ้าง เอกลักษณ์ที่โดดเด่นและเป็นตำนานในทุกรายละเอียดนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร มาไขความลับไปทีละข้อกันเลย

  1. สิ่งแรกที่ผลิตไม่ใช่รถยนต์ แต่เป็น.. เครื่องบิน

BMW เป็นบริษัทผลิตยานยนต์ของประเทศเยอรมัน ถือกำเนิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เดิมที BMW ไม่ได้เริ่มมาจากการผลิตรถยนต์อย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ แต่มีบริษัทผลิตเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินรบของประเทศเยอรมัน ที่มีชื่อว่า Rapp Motorenwerke ก่อตั้งเมื่อ ปี 1913 โดย Karl Friedrich Rapp แม้จะเป็นแนวหน้าของวงการเครื่องบินในช่วงเวลานั้น แต่เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง ประเทศเยอรมันเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ จึงได้เกิดการทำสนธิสัญญาแวร์ซายที่ไม่อนุญาตให้ฝ่ายที่พ่ายแพ้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องบิน ทำให้กิจการเครื่องบินของ BMW

New call-to-action

  1. ที่มาของโลโก้ทรงพลัง ไม่ใช่แค่ใบพัดเครื่องบิน

สิ่งหนึ่งที่ช่วยทำให้รถยนต์ของ BMW โดดเด่นกว่าแบรนด์อื่นก็คือ โลโก้ หรือตราสัญลักษณ์ของ BMW นั่นเอง ด้วยรูปทรงที่คล้ายกับใบพัดที่กำลังหมุน บวกกับการที่ BMW เคยเป็นผลิตชิ้นส่วนเครื่องบิน ส่งผลให้หลายคนเข้าใจว่าโลโก้นั้นมาจากใบพัดของเครื่องบิน แต่ความจริงแล้ว โลโก้รูปทรงวงกลมนั้นมีความหมายสื่อถึงการขับเคลื่อนไปข้างหน้า ในส่วนสีขาวและสีฟ้า มาจากสีประจำรัฐ Bavarian ในประเทศเยอรมัน ซึ่งเป็นสถานที่ที่เป็นบ้านเกิดของ BMW นั่นเอง โดยที่ผ่านมาทาง BMW ก็พัฒนาโลโก้ให้เข้ากับยุคสมัยอยู่เสมอ แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ที่ทรงพลังไว้ไม่มีเปลี่ยนแปลง

  1. เอกลักษณ์กระจังหน้าที่มีมากว่า 100 ปี

อีกสิ่งที่ซิกเนเจอร์โดดเด่นจนทำให้ไม่ว่าใครที่พบเห็นก็ทราบได้ทันทีว่ารถคันนี้เป็นรถยนต์จากค่าย BMW ก็คือ กระจังหน้า ลักษณะคล้ายฟันหนูที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะของรถยนต์แบบนี้ แต่น้อยคนจะรู้ว่าเจ้ากระจังหน้าคู่สุดคูลนี้มีชื่อเรียกว่า Kidney Grille” แถมยังมีอายุมายาวนานกว่า 100 ปี โดยเริ่มใช้ครั้งแรกกับรุ่น BMW 303 ในปี 1933 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของเอกลักษณ์กระจังหน้าไตคู่ที่มีใน BMW ทุกรุ่นทุกคัน ไม่เว้นแม้แต่รถแข่ง Formula 1 ก็มีการใส่กระจังหน้าไตคู่ลงไปในรูปแบบของลวดลายที่อยู่บนตัวรถด้วยเช่นกัน

 

  1. BMW ผลิตรถไฟฟ้ามากว่า 40 ปีแล้ว

แม้กระแสและความนิยมรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่งเป็นที่พูดถึงไม่กี่ปีมานี้ และมีหลายคนที่เข้าว่ารถยนต์ไฟฟ้าของค่าย BMW มีแค่รุ่น iX3 หรือ BMW i3S แต่ว่าความจริงแล้ว BMW ได้เริ่มทำการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามาเป็นเวลานานกว่า 40 ปีแล้ว โดยเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกออกมาในปี 1972 ในรุ่น BMW 1602 Elektro-Antrieb ซึ่งได้รับเสียงฮือฮาเป็นจำนวนมากในยุคนั้นเกี่ยวกับเรื่องความล้ำสมัย แต่ด้วยเครื่องยนต์ของรถรุ่นนี้มีกำลังสูงสุดเพียง 43 แรงม้า อัตราการเร่ง 0-48 กิโลเมตร/ชั่วโมง ความเร็วสูงสุดเพียง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และในการชาร์จไฟฟ้าเต็ม 1 ครั้ง สามารถใช้งานวิ่งได้เพียง 20 นาทีเท่านั้น ซึ่งยังไม่เพียงพอและไม่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้คนในชีวิตประจำวัน และด้วยความที่ยุคนั้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยียังไม่เติบโตเต็มที่ รถรุ่นนี้จึงถือว่าเป็นรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่ารถยนต์ทั่วไปที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงค่อนข้างมาก แต่อย่างไรก็ตาม การผลิตครั้งนี้นับว่าเป็นก้าวแรกของ BMW เข้าสู่วงการรถยนต์ไฟฟ้าที่ยิ่งใหญ่ก้าวนึงเลยทีเดียว

 

  1. ความหมายของรหัสท้ายรถ BMW
    แฟรนไชส์ ร้านล้างรถ ควิกวอช

ปกติแล้วรถยนต์ของ BMW จะมีการบอกรุ่น และรหัสต่างๆ ไว้ที่ด้านท้ายของรถ ตรงตำแหน่งด้านขวาของฝากระโปรงท้าย โดยมีความหมายเพื่อบอกชนิดของรถและรุ่นรถ รวมถึงลักษณะของเครื่องยนต์ โดยมีตัวอักษรและตัวเลขทั้งหมด 4 ตัวด้วยกัน

ตัวเลขตัวแรก หมายถึง แบบหรือรุ่นต่างๆ ของรถ เช่น Series 3, Series 5, Series 7 และ Series 8

ตัวเลข 2 ตัวหลัง หมายถึง ขนาดเครื่องยนต์หรือกระบอกสูบที่ใช้หน่วยเป็นลิตร แต่ในบางรุ่นเลขท้ายอาจจะไม่ตรงกับขนาดเครื่องยนต์ เช่น รถรุ่น 318i E46 มีขนาดเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร มากกว่ารหัสท้ายรถ เพราะ BMW ได้ทำการเพิ่มขนาดกระบอกสูบ

ตัวอักษรตัวสุดท้าย หมายถึง ตัวย่อของรุ่นรถ และรายละเอียดอื่นๆ เช่น ระบบน้ำมันหรือระบบการขับเคลื่อน โดยแต่ละอักษรมีความหมายและรายละเอียด ดังนี้

A = Automatic Transmission หรือรถรุ่นที่ใช้เกียร์แบบออโตเมติก

C , CS = Coupe รถรุ่น 2 ประตูหรือรุ่นสปอร์ต บางรุ่นจะใส่ S เข้ามาด้วย ซึ่งเป็นรุ่นที่ปรับแต่งทั้งภายนอกภายในเป็นแบบสปอร์ต อาจมีการเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์ เช่น CS Coupe Sport

d = Diesel รถรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล เช่น 320d

e = Economy Engine เน้นการลดมลพิษและความประหยัดมากกว่าความแรง เช่น 325e แต่ในปัจจุบัน หมายถึง Electric หรือรถไฟฟ้า เช่น 530e

i = Fuel-Injected Engine จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอีเลคทรอนิคส์

L = Long Wheel Base Model รถรุ่นฐานล้อยาว เช่น L7 ใน Series 7

SE = Special Edition รถรุ่นพิเศษ เช่น 520d SE

T = Turbocharger Engine หรือ Touring

X, xDrive = All Wheel Drive สำหรับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ เช่น xDrive 30e

 

รถยนต์ BMW รุ่นใหม่ที่พร้อมเปิดตัวในปี 2022

จากประวัติความเป็นมาที่เอามาฝากทั้งหมดนี้ อาจทำให้หลายคนรู้จัก BMW มากขึ้นแล้ว ต่อไปเราจะเอาลิสต์รุ่นรถ BMW ที่เปิดตัวและกำลังจะเปิดตัวในปี 2022 นี้ ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า 3 รุ่น รถยนต์อเนกประสงค์ตระกูล X 2 รุ่น และรถสปอร์ตอย่าง Series 4 ลงตลาดจำหน่ายในประเทศไทย จะมีรุ่นไหนให้หน้าติดตามบ้าง มาดูกัน

  1. BMW i4 M50 ใหม่

ราคา 4.999 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)

  1. BMW i4 eDrive40 M Sport ใหม่

ราคา 4.499 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)

  1. BMW iX3 M Sport ใหม่

ราคา 3.399 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)

New call-to-action

  1. BMW 430i Convertible M Sport ใหม่

ราคา 4.499 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)

  1. BMW X6 xDrive40i M Sport ใหม่ (รุ่นประกอบในประเทศ)

ราคา 5.499 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard)

  1. BMW X7 xDrive40d M Sport ใหม่ (รุ่นประกอบในประเทศ)

ราคา 6.199 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)

 

บทความนี้ อาจทำให้หลายคนได้รู้จัก BMW มากยิ่งขึ้น ทั้งในแง่มุมที่หลายคนอาจจะทราบกันดีอยู่แล้ว และในแง่เกร็ดความลับเล็กน้อยที่น้อยคนที่จะรู้ความจริง หลังจากนี้มารอลุ้นกันดีกว่า BMW จะพัฒนารถยนต์ออกมาในทิศทางไหน และเดินหน้าผลิตรถยนต์สุดคูลรุ่นไหนออกมาให้เหล่าสาวกได้เซอร์ไพรส์อีก เราจะรีบเอามาอัปเดตให้ทุกคนได้รู้กัน กดติดตาม (Subscribe) บทความนี้ไว้ เพื่อไม้ให้พลาดสาระความรู้ และตามทันข่าวสารด้านยานยนต์ก่อนใคร

 

New call-to-action

Panida Nue

Panida Nue

Content Creator

Related posts

ล้างรถที่ดีต้องมีขั้นตอนอะไรบ้าง ?

การล้างรถถือเป็นขั้นตอนในการดูแลรักษารถที่ เป็นการทำให้รถดูสะอาดดูดีอยู่สม่ำเสมอ...

Continue Reading

แชร์ทริค! เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตอนไหน ดูแลยังไงไม่ให้เครื่องพัง !

การดูแลเรื่องน้ำมันเครื่องรถยนต์ เป็นหน้าที่สำคัญที่เจ้าของรถทุกคนควรใส่ใจ และไม่ควรละเลย...

Continue Reading

นิยามความเก๋าที่ไม่เคยเก่าของ รถยนต์คลาสสิก

แม้ยุคนี้จะเป็นยุคที่รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไร้คนขับกำลังมีบทบาทและได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก...

Continue Reading