E-mail : Quickwashthailand@gmail.com Tel : 092-281-2771

ถอดสูตร “ธุรกิจกงสี” ปรับตัวยังไงให้รอด?

                  อาจมีหลายคนที่คิดอยากสร้างธุรกิจใหม่ด้วยตัวเอง มากกว่าการสืบทอดธุรกิจกงสีของครอบครัวที่มีอยู่แล้ว เพราะมองว่าเป็นเรื่องยุ่งยากที่ต้องรักษาธุรกิจกงสีให้คงอยู่ต่อไป โดยปราศจากความขัดแย้งในครอบครัวที่มีสาเหตุมาจากความต่างวัยของสมาชิกในกงสี ควิกวอชเลยอยากพาทุกคนมาลองปรับมุมมอง และถอดสูตรธุรกิจกงสี ว่ามีวิธีไหนบ้างที่ช่วยให้การบริหารธุรกิจกงสีเป็นเรื่องง่าย แถมยังหมดปัญหาเรื่องความเห็นไม่ตรงกัน ที่ไม่ว่ายุคไหนก็ปรับตัวให้อยู่รอดได้ไม่ยาก โดยเฉพาะในยุคที่ดิจิทัลเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำธุรกิจแบบนี้ เรามาเริ่มถอดสูตรธุรกิจกงสีไปพร้อมกันเลย


ธุรกิจกงสี คืออะไร?

              หากพูดถึงคำว่า “กงสี” ภาพจำของเราที่คุ้นเคยกันดีอาจหมายถึง ธุรกิจของครอบครัวคนจีนที่มาตั้งรกรากในเมืองไทย และสืบสานต่อ ๆ กันมารุ่นสู่รุ่น แต่ถ้าจะนิยามคำนี้ให้เข้าใจโครงสร้างของธุรกิจประเภทนี้จริง ๆ อาจกล่าวได้ว่า ธุรกิจกงสี คือ ธุรกิจที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวมีส่วนร่วมในการผลิตการค้าขาย วางแผนกลยุทธ์ สร้างกฎ-กติกา และมีข้อตกลงที่สำคัญที่สุดคือ รายได้จากการทำธุรกิจต้องเก็บรวมไว้ในกงสีหรือกองกลาง เป็นกรรมสิทธิ์รวมของคนในครอบครัวที่แบ่งผลประโยชน์ร่วมกัน โดยธุรกิจกงสีมักประกอบไปด้วยคนในครอบครัวทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่

QW nurturing มีพื้นที่

รุ่นบุกเบิก เป็นรุ่นของปู่ย่าตายาย (อายุระหว่าง 75-80 ปี) ตัวแทนจากยุค Baby Boomer ที่มักจะมีลักษณะการดำเนินชีวิตแบบทุ่มเททั้งชีวิตให้กับงาน มีความอดทนสูงมาก ประหยัดอดออม เน้นการสร้างรากฐานให้มั่นคงไปถึงยุคลูกหลาน 
รุ่นสืบทอด เป็นรุ่นของพ่อแม่ (อายุ 50 ปีขึ้นไป) ตัวแทนจากกลุ่ม Gen-X มีช่วงชีวิตในยุคที่สงบสุข มั่งคั่ง และสุขสบาย เริ่มมีการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล มักจะเป็นคนรุ่นเก่า ที่รับข้อมูลจากรุ่นปู่ย่าตายายแล้วนำมาต่อยอดจนมีประสบการณ์ด้านการค้าเป็นอย่างดี มักจะมีแนวคิดอนุรักษ์นิยม ไม่ชอบความเสี่ยง เมื่อประสบความสำเร็จในระดับสูงจึงไม่ยอมที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรมาก เพราะรู้สึกว่าธุรกิจของตัวเองดีอยู่แล้ว ไม่กล้าทำอะไร ชอบที่จะอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย (Comfort Zone) มากกว่า 
รุ่นพัฒนา เป็นรุ่นของลูกชาย หรือ ลูกสาวคนโต (อายุ 30 ปีขึ้นไป) ตัวแทนจากกลุ่ม Gen-Y มักจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เกิดในยุคออนไลน์เฟื่องฟู ก้าวสู่โลกดิจิทัลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ได้รับโอกาสเรียนหนังสือระดับปริญญาทั้งในเมืองไทยหรือประเทศ จึงทำให้เกิดแนวคิดอยากเปลี่ยนแปลง อยากให้ธุรกิจมีการพัฒนาหรือใช้เทคโนโลยีมากขึ้น 


          ด้วยความต่างของวัยทำให้แนวคิดในการทำธุรกิจแตกต่างกันตามไปด้วย ยิ่งในยุคปัจจุบัน โลกกำลังเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว เทคโนโลยียิ่งเป็นสิ่งจำเป็นมากในการพัฒนาธุรกิจ ซึ่งผู้บริหารกิจการในแต่ช่วงวัยมีความสามารถและมุมมองเกี่ยวกับด้านนี้ที่ต่างกัน ส่งผลให้ธุรกิจกงสีจำเป็นต้องปรับตัวมากกว่าธุรกิจประเภทอื่นเป็นพิเศษ การมองหาจุดกึ่งกลางเพื่อนำพาธุรกิจกงสีให้อยู่รอด โดยปราศจากความขัดแย้งจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเราขอแนะนำวิธีที่ช่วยทำให้การบริหารธุรกิจกงสีนั้นง่ายขึ้น และสามารถพัฒนาธุรกิจกงสีให้อยู่รอดและไปต่อได้

 

วิธีที่ช่วยให้ธุรกิจกงสีไปรอดในยุคดิจิทัล

1. ทำความเข้าใจกันภายในครอบครัวก่อน

                   เนื่องจากความต่างของวัยเป็นอุปสรรคหลักที่ส่งผลให้การทำธุรกิจต้องสะดุด การพูดคุยกันจึงเป็นสิ่งแรกที่ต้องทำหากอยากปรับตัวให้ธุรกิจอยู่รอด การทำงานร่วมกับคนในครอบครัวเดียวกันอาจมีเรื่องอายุเข้ามาเกี่ยวข้อง ความคิดเห็นของเด็กรุ่นใหม่มักจะถูกปัดตกไป เพียงเพราะมีอายุที่น้อยกว่า ถึงแม้บุคคลนั้นจะทำหน้าที่สำคัญให้กับธุรกิจก็ตาม ดังนั้นวิธีที่จะช่วยปรับให้ธุรกิจดูมีแบบแผน และได้รับการพัฒนาด้วยชุดความคิดใหม่ ๆ ธุรกิจกงสีจำเป็น กำหนดบทบาทสมาชิกแต่ละคนในครอบครัวให้ชัดเจน

 
          การกำหนดบทบาท ตำแหน่ง และหน้าที่ในบริษัทให้แก่คนในครอบครัวอย่างชัดเจน จะทำให้คนในครอบครัวได้รู้ว่าตัวเองมีหน้าที่และความรับผิดชอบด้านไหน ตำแหน่งอะไร ซึ่งผู้นำครอบครัวควรพิจารณาให้เหมาะสมกับทักษะความสามารถของแต่ละคน มากกว่าการให้คนในครอบครัวเลือกตำแหน่งที่ต้องการกันเอง ยึดตามหลักคิดใช้คนให้ถูกกับงาน ธุรกิจถึงจะพัฒนาไปต่อได้ แต่ถึงจะมีการกำหนดบทบาทแล้ว คนที่มีประสบการณ์น้อยกว่าก็ควรรับฟังความคิดเห็นของผู้ใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน ซึ่งผู้ใหญ่ก็ควรเปิดใจรับฟังคนรุ่นใหม่ด้วยเช่นกัน เปรียบเสมือนพี่เลี้ยงทางธุรกิจ ที่คอยแชร์ความรู้และให้คำปรึกษา พร้อมทั้งรับฟังสิ่งใหม่อย่างไม่ปิดกั้น เพียงเท่านี้ก็สามารถเบาใจเรื่องความขัดแย้งในเรื่องการทำงานภายในกงสี และการแสดงความคิดเห็นไปได้บ้าง แล้วต่อไปเราถึงสามารถลุยต่อกับการพัฒนาธุรกิจกงสีให้ยั่งยืนได้

QW nurturing Franchise

2. ขอความร่วมมือทุกคนเปิดใจศึกษาสื่อสมัยใหม่

                ยุคสมัยได้เปลี่ยนแปลงไป การหยิบยกสื่อแต่ละประเภทมาใช้ในการทำธุรกิจก็เปลี่ยนแปลงตาม สิ่งที่คนรุ่นใหม่ควรสื่อสารให้คนรุ่นเก่าฟังคือ สื่อหนังสือพิมพ์ หรือโทรทัศน์ เป็นสื่อที่เริ่มจางไปในยุคนี้ สมัยก่อนธุรกิจอาจใช้ประโยชน์จากสื่อดั้งเดิมเหล่านั้นในการต่อยอดธุรกิจ แต่ในสมัยนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนแปลงไป กลุ่มลูกค้าของธุรกิจได้แยกย้ายและกระจายไปอยู่ในแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ ธุรกิจต้องปรับตัวเข้าหาสื่อออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม โดยอาจจะปรับสัดส่วนจากสื่อเก่า ๆ มาใช้ประโยชน์จากสื่อออนไลน์ที่มีกลุ่มลูกค้าใช้เวลากับโทรศัพท์แทบจะทั้งวันจะดีกว่า

                   เมื่อผู้บริหารรุ่นเก่าเริ่มเปิดใจและมองเห็นความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ค่อยชี้ชวนเพื่อพูดคุยถึงการตลาดโซเชียลมีเดียเป็นลำดับถัดไป บอกให้เห็นถึงข้อดีข้อเสียและผลประโยชน์ เพื่อให้เขาได้ลองพิจารณาเพิ่มเติม โดยอาจยกตัวอย่างเคสธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาเล่าให้พวกเขาได้เห็นภาพมากขึ้น หากทำตามวิธีที่แนะนำไปก็จะช่วยให้การพัฒนาธุรกิจ เริ่มมีโอกาสเป็นไปได้มากขึ้น และลดปัญหาความขัดแย้งที่อาจเกิดจากความไม่เข้าใจได้อีกด้วย

 

3. ทำทุกอย่าง ค่อยเป็นค่อยไป

          ทุกย่างก้าวของการทำธุรกิจอาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ โดยเฉพาะธุรกิจกงสี ในช่วงแรกที่เราคิดจะเข้าไปพัฒนา อาจเกิดความขัดแย้งมากมายที่มาจากอคติของแต่ละคน หากเราใจร้อนและบุ่มบ่าม อาจทำให้เราเกิดความรู้สึกอึดอัดที่จะทำธุรกิจนี้ร่วมกับครอบครัว ยิ่งถ้าแย่ไปกว่านั้น เราอาจจะรู้สึกท้อแท้และล้มเลิกความคิดในการทำธุรกิจได้ ดังนั้นสิ่งสุดท้ายที่เราอยากแนะนำให้คุณทำหากอยากให้ธุรกิจกงสีนี้ไปรอด คือ ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป หากทุกคนในครอบครัวมีเจตนาที่ดี ที่อยากช่วยกันสานต่อธุรกิจให้เจริญก้าวหน้าแล้ว การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างจะส่งผลที่ดีตามมาอย่างแน่นอน เพียงแค่ขอให้ทุกคนใจเย็นพอที่จะรอดูความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นร่วมกันเท่านั้น และธุรกิจกงสีที่ร่วมสร้างกันมาอย่างยาวนาน ก็จะสามารถสืบทอดกันต่อไปได้อย่างยั่งยืน

 

               การทำงานร่วมกับครอบครัวอาจมีปัจจัยอีกมากมายที่ส่งผลกระทบต่อการเดินหน้าของธุรกิจ แต่เราเชื่อว่า เพียงแค่ยึดหลัก 3 ข้อนี้ บวกกับใจที่พร้อมจะสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่า ไม่ว่าอย่างไร ธุรกิจกงสีก็จะยังคงรอดไปต่อได้ ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ตาม ครั้งหน้าควิกววอชจะมีแง่มุมธุรกิจอะไรดี ๆ มาฝากอีก กดติดตามไว้เลย ส่วนใครที่สนใจลงทุนกับธุรกิจที่พร้อมเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ร่วมบริหารเหมือนคนในครอบครัว ก็ฝากโมเดลธุรกิจพาร์ทเนอร์และแฟรนไชส์ของ Quickwash ไว้เพื่อพิจารณา แล้วมายกระดับแบรนด์ล้างรถอัตโนมัตินี้ไปด้วยกัน อ่านรายละเอียดการลงทุนเพิ่มเติม คลิกด้านล่างเลย

Dowload E-Book

 

Panida Nue

Panida Nue

Content Creator

Related posts

"ควิกวอช" เปิดตัวเป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์ปั๊มน้ำมันบางจาก

Quickwash (ควิกวอช) ร้านล้างรถอัตโนมัติชื่อดัง ที่สามารถล้างรถเร็วใน 7 นาที ราคาเริ่มต้น 89 บาท...

Continue Reading

8 กับดักที่นักลงทุนมือใหม่ต้องระวัง

          ในทุกๆ การลงทุนนั้นย่อมมีความเสี่ยง...

Continue Reading

เปิดแล้ว!! แฟรนไชส์ล้างรถ อัตโนมัติสาขาแรก ควิกวอช "ปตท.เศรษฐกิจ"

Continue Reading